3 ขั้นตอนสร้างแหวนคุณ
คอลเลกชันเพชร
Above Ideal™
เพชรที่ได้รับการคัดเลือกด้วยหลักเกณฑ์ที่เคร่งครัดที่สุดในทุกมุมทุกองศา โดยพิจารณาความสะอาดภายในเพชรร่วมด้วย เพื่อให้เพชรของคุณเล่นไฟอย่างงดงามแบบโดดเด่นสะดุดทุกสายตา
Premium Excellent
เพชรที่มีคุณลักษณะการเล่นไฟในระดับยอดเยี่ยม ปราศจากตำหนิที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า โดยคำนึงถึงคุณสมบัติที่จะทำให้เพชรของคุณมีสัดส่วน พื้นผิวและความสมมาตรที่สมบูรณ์แบบ
Budget Price
เพชรที่มีคุณลักษณะการเล่นไฟในระดับดี อาจมีตำหนิที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า จึงมีราคาที่ย่อมเยากว่า เพื่อให้คุณสามารถครอบครองเพชรในฝันได้อย่างสบายใจในงบประมาณที่จำกัด
รูปทรงเพชร
กะรัต
น้ำ/สี
ความสะอาด
เรียนรู้เรื่องเพชรของเรา
ที่อโบฟไดมอนด์หน้าที่ของเราไม่ได้มีเพียงแค่การขายเพชร เพราะเราให้ความสำคัญกับการทำความเข้าใจในความต้องการของคุณ เพื่อให้คุณได้สวมใส่เพชรที่คุณจะต้องหลงรัก ในสไตล์ที่เหมาะสมและสอดคล้องกับงบประมาณมากที่สุด
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาเพชรวันนี้
ตารางราคาเพชรอ้างอิง ถือเป็นเพียงราคาคร่าวๆเพื่อใช้เป็นหลักในการกำหนดราคาเพชรวันนี้ โดยจะเทียบได้เฉพาะน้ำเพชร (Color) และความสะอาดเพชร (Clarity) ซึ่งในความเป็นจริงแล้วยังมีอีกหลากหลายปัจจัยนอกเหนือจากหลักการดูเพชร 4C ที่สามารถส่งผลต่อราคาเพชรเม็ดนั้นๆ ทำให้ราคาเพชรสูงหรือต่ำกว่าราคากลางได้ ดังนี้
1. น้ำหนักกะรัต (Carat)
น้ำหนักกะรัตของเพชรจะส่งผลต่อราคาโดยตรง เช่น หากมีเพชร 2 เม็ดที่มีคุณภาพเหมือนกันทุกอย่างอยู่บนแหวนแต่งงาน เพียงแต่เม็ดหนึ่งมีน้ำหนัก 1.20 กะรัต ในขณะที่อีกเม็ดหนึ่งเป็นเพชร 1 กะรัต ราคาเม็ดแรกย่อมสูงกว่าเม็ดหลัง
นอกจากนี้เพชรจะมีมูลค่าสูงขึ้นหากอยู่ในเกณฑ์พรีเมียมไซส์ (Premium Size) หรือขนาดที่คาบเกี่ยวไปทางช่วงปลายของราคา เช่น:
- เพชรขนาดพรีเมียมไซส์น้ำหนัก 0.36 – 0.39 กะรัต และ 0.46 – 0.49 กะรัต ราคาเพชรมักจะสูงกว่าปกติ 10% – 20%
- เพชรขนาดพรีเมียมไซส์น้ำหนัก 0.60 – 0.69 กะรัต และ 0.80 – 0.89 กะรัต ราคาเพชรมักจะสูงกว่าปกติ 7% – 12%
- เพชรขนาดพรีเมียมไซส์น้ำหนัก 0.95 – 0.99 กะรัต และ 1.24 – 1.49 กะรัต ราคาเพชรมักจะสูงกว่าปกติ 5% – 10%
- เพชรขนาดพรีเมียมไซส์น้ำหนัก 1.70 – 1.99 กะรัต ราคาเพชรมักจะสูงกว่าปกติ 7% – 12%
- เพชรขนาดพรีเมียมไซส์น้ำหนัก 2.50 – 2.99 กะรัต ราคาเพชรมักจะสูงกว่าปกติ 5% – 10%
- เพชรขนาดพรีเมียมไซส์น้ำหนัก 3.50 – 3.99 กะรัต และ 4.50 – 4.99 กะรัต ราคาเพชรมักจะสูงกว่าปกติ 5% – 10%
2. น้ำเพชร (Color)
เมื่อพูดถึงน้ำเพชร หรือสีของเพชร หลายท่านอาจเคยได้พบเห็นการระบุถึงเพชรน้ำ 100 (D Color) เพชรน้ำ 99 (E Color) เพชรน้ำ 98 (F Color) ฯลฯ ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่มีผลต่อราคาเพชร น้ำของเพชรจะขึ้นอยู่กับความขาว ซึ่งเพชรน้ำ 100 หรือเพชร D Color ถือว่าเป็นเพชรที่ขาวที่สุด (ไม่มีสีเจือปน) มีความสว่างและมูลค่าสูงกว่า เพชรน้ำรอง ซึ่งจะมีมีสีขาวอมเหลือง จึงได้รับความนิยมน้อยกว่า ส่งผลให้มีมูลค่าน้อยกว่าเพชรน้ำสูง
3. ความสะอาด (Clarity)
ความสะอาดของเพชร เป็นหนึ่งในอีกปัจจัยที่จะสามารถบ่งบอกถึงมูลค่าของเพชรในระยะยาว ยิ่งเพชรใสสะอาดมาก ก็จะยิ่งมีราคาสูง เช่น เพชรความสะอาดระดับ IF ย่อมมีราคาสูงกว่า เพชรที่มีความสะอาดระดับ VVS1, VVS2, VS1, VS2, SI1, SI2 ตามลำดับ
โดยเพชรจะยิ่งมีราคาลดลงหากคุณภาพต่ำกว่า SI เพราะคุณเริ่มจะสามารถมองเห็นตำหนิของเพชรบางเม็ดได้ด้วยตาเปล่า จึงถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัดในการซื้อเพชร
4. เหลี่ยมเจียระไน (Cut)
คุณภาพการเจียระไน ส่งผลต่อการเล่นไฟของเพชรโดยตรง จึงเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่จะกำหนดมูลค่าของเพชรเม็ดนั้น เช่น เพชร 3 Excellent Cut ย่อมมีราคาสูงกว่าเพชรที่เป็น Very Good, Good, Fair และ Poor ตามลำดับ โดยในบรรดาเพชรเหลี่ยมสวย เพชร 3 EX ที่มี Hearts & Arrows (H&A) ร่วมด้วยมักจะมีราคาสูงกว่าเม็ดที่ไม่มี เพราะการที่เพชรเม็ดหนึ่งจะมีลักษณะนี้ได้ จำเป็นต้องเกิดจากการการเจียระไนเพชรให้มีเหลี่ยมที่สมมาตรอย่างตรงสัดส่วน ทำให้แสงตกกระทบบนเพชรแล้วส่องออกมาเป็นประกายที่งดงาม
5. ฟลูออเรสเซนซ์ (Fluorescence)
ฟลูออเรสเซนซ์ หมายถึงการเรืองแสงของเพชรภายใต้แสง UV ส่งผลต่อการสะท้อนโทนสีของเพชร เพราะอาจทำให้เพชรมีโทนสีฟ้าหากมี Fluorescence ในเพชรระดับสูง เช่น Strong หรือ Very Strong แต่ในบางกรณีที่เพชรมี Fluorescence ในระดับน้อย เช่น Faint หรือ Medium อาจกลายเป็นข้อดี โดยเฉพาะสำหรับเพชรน้ำ 94-95 (Color J-I) เพราะจะทำให้เพชรดูขาวยิ่งขึ้น จนอาจดูแล้วคล้ายเพชรน้ำ 96-97 (Color H-G) เลยก็เป็นได้
โดยปกติเพชรที่มี Fluorescence จะมีราคาประหยัดกว่าเพชรที่ไม่มี Fluorescence จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดเงิน ในขณะที่เพชรก็ยังดูขาวมากยิ่งขึ้น
6. ใบเซอร์ทิฟิเคท (Certificate)
ใบเซอร์ฯเพชรที่รับรองโดยสถาบันชื่อดัง ส่วนใหญ่จะมีราคาสูงกว่าเพชรที่ไม่มีใบเซอร์ฯ โดยหากเทียบระหว่างใบเซอร์ฯ GIA กับ HRD มูลค่าของเพชรใบเซอร์ฯ GIA มักจะจะสูงกว่า HRD อยู่พอสมควร
ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าเพชรใบเซอร์ฯ GIA จะสวยกว่าเพชรใบเซอร์ฯ HRD เสมอไป เพราะทั้งสองสถาบันนี้ต่างก็ได้รับการยอมรับในระดับสากลในด้านการตรวจวิเคราะห์เพชรอยู่แล้ว เพียงแต่เพชรใบเซอร์ฯ GIA มีชื่อเสียงมากที่สุด จึงได้รับความนิยมมากกว่าเพชรใบเซอร์ฯ HRD
7. อัตราแลกเปลี่ยน (Exchange rate)
เช่นเดียวกับราคาทองคำและราคาน้ำมัน ราคาเพชรในไทยจะอ้างอิงจากดอลลาร์สหรัฐ (USD) โดยตรง เพราะฉะนั้นอาจมีการปรับเปลี่ยนได้ตามสภาวะตลาด หากอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างดอลลาร์สหรัฐกับบาทไทยมีความผันผวน
หากคุณมีคำถามหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับราคาเพชรวันนี้ โปรดติดต่อเรา
อโบฟยินดีให้บริการคุณเสมอ
พูดคุยกับนักอัญมณีอโบฟไดมอนด์