อัพเดทล่าสุด 01/01/2024 โดย Wit Sudjaiampun

แหวนเพชร 1 กะรัต ราคาเท่าไร? ซื้อเพชรให้เป็นในปี 2024!

แหวนเพชรเม็ดเดี่ยวบนมือ

แชร์บทความนี้

แหวนเพชร 1 กะรัตราคา เท่าไร? คงเป็นคำถามที่คุณกำลังสงสัยอยู่ เช่นเดียวกับเพื่อนๆอีกหลายคน ที่กำลังมองเพชรเม็ดโตไว้ประดับบนแหวนแต่งงาน หรือแหวนเพชรเม็ดเดี่ยว

โดยทั่วไปแล้ว เพชร 1 กะรัต ราคาจะอยู่ระหว่าง 80,000-600,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรายละเอียดปลีกย่อยในส่วนอื่นๆด้วย เช่น น้ำ ความสะอาด การเจียระไน ฯลฯ ซึ่งเป็นขอบเขตที่กว้างพอสมควร

ซึ่งหากคุณเป็นลูกค้าที่ไม่ได้ซื้อเพชรเป็นประจำ คุณก็อาจจะเกิดความสงสัย ว่าทำไมราคาเพชร 1 กะรัต ถึงได้มีช่วงราคาที่กว้างขนาดนี้?

เราจะมาหาคำตอบไปพร้อมกันในบทความนี้ โดยผมจะโฟกัสไปที่ เพชรทรงกลม เท่านั้น เพราะเป็นเพชรที่ได้รับความนิยมมากที่สุดครับ แต่หากคุณกำลังมองหาเพชรรูปทรงอื่นๆ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ในบทความนี้: 12 เพชรแฟนซี รูปทรงเพชรยอดนิยม พร้อมเคล็ดลับการซื้อ!

กะรัตเพชร

ความรู้พื้นฐาน: กะรัตเพชร

สำหรับการวัดน้ำหนักเพชรทุกเม็ดบนโลกนี้ จะมีกฎตายตัวอยู่เพียง 2 ข้อ

  1. น้ำหนักเพชรนั้นวัดด้วยหน่วย กะรัต เสมอ
  2. ตัวอย่าง: หากเพชร 0.5 กะรัต (50 ตัง) มีราคากะรัตละ 90,000 บาท นั่นแปลว่าราคาของเพชรเม็ดนั้นจะเท่ากับ 90,000 บาท * 0.5 กะรัต = 45,000 บาท ต่อเม็ดนั่นเอง

  3. ราคาของเพชร ต่อกะรัต จะเพิ่มขึ้น เมื่อเข้าสู่ ช่วงลำดับขั้น ที่สูงขึ้น

ซึ่งคล้ายกับการซื้อรถยุโรป ที่ยิ่งคุณเพิ่มออปชั่นมากเท่าไร ราคาก็จะยิ่งสูงขึ้นมากเท่านั้น จนคุณอาจจะถอยรถญี่ปุ่นได้อีกคัน

เพราะฉะนั้น ราคาเพชรจะเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณไปพร้อมกับน้ำหนักกะรัต เนื่องจากราคาจะเพิ่มขึ้น นั้นมาจาก น้ำหนักเพชรที่เพิ่มขึ้น บวกกับ ราคาต่อกะรัตที่สูงขึ้น

เกร็ดความรู้: เพชร 1 ตัง = 0.01 กะรัต

สิ่งที่ต้องพิจารณา: ช่วงลำดับขั้น

ที่ผมเน้นเรื่อง ช่วงลำดับขั้น เป็นเพราะคุณอาจจะเข้าใจผิด คิดว่าราคาเพชรต่อกะรัตจะเพิ่มขึ้นตามน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น แต่นั่นไม่เป็นความจริงเสมอไป เนื่องจากเพชรเป็นสินค้าที่ซื้อขายกันโดยอารมณ์อยู่เหนือเหตุผล

ตัวอย่าง: ถึงแม้ว่าเพชร 0.99 กะรัตจะมีราคามากกว่าเพชร 0.98 กะรัตที่มีคุณภาพเดียวกันเพียง 1% แต่ถ้าหากเป็นเพชร 1.00 กะรัต จะมีราคามากกว่าเพชร 0.99 กะรัตที่มีคุณภาพเดียวกันกันถึง 5-15%

ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?

อาจจะมาจากความภาคภูมิใจ ที่ผู้ซื้อสามารถบอกคนอื่นได้อย่างเต็มปาก ว่าเพชรของตน คือ เพชร 1 กะรัต แต่ถ้าวิเคราะห์ให้ดี ว่าทำไมคนจึงนิยมเพชร 1 กะรัต ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของจิตวิทยา (Psychology) และอุปสงค์ (Demand) ล้วนๆ

และนี่ก็เป็นเพียงหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ในตลาด มีเพชรคุณภาพต่ำปะปนอยู่มากมายนั่นเอง

แหวนเพชร 1 กะรัต

อ่านเพิ่มเติม: เลิกใส่แหวนผิดไซส์ซักที! วิธีวัดไซส์แหวน แบบง่ายๆและแม่นยำ

คุณภาพการเจียระไน (Cut) ส่งผลต่อราคาเพชรอย่างไร?

จากที่ผมได้กล่าวในเบื้องต้น เพชรที่มีน้ำหนัก 1.00 กะรัต อาจมีราคาสูงกว่าเพชรที่มีน้ำหนัก 0.99 กะรัตกว่า 5-15% (ขึ้นอยู่กับคุณภาพแต่ละเม็ดด้วย)

ถ้าคุณกำลังนึกภาพตาม คุณคงจะนึกอยู่ในใจว่า “ถ้าอย่างนั้นช่างที่เจียระไนเพชรออกมาเหลือ 0.99 กะรัต จะโดนไล่ออกจากงานไหมนะ?”

ในความเป็นจริง ถ้าเพชร 0.99 กะรัตได้รับการเจียระไนออกมางามกว่าเพชร 1.00 กะรัต ราคาอาจต่ำกว่าเพียง 3-10% เนื่องจากผู้ซื้อยังให้ความนิยมในเพชรเต็มกะรัตมากกว่าอยู่ดี

และนี่ก็เป็นเทคนิคอย่างหนึ่ง ที่บริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการนั้นรู้กัน ว่าควรจะเจียระไนเพชร ให้อยู่ในลำดับขั้น 1 กะรัตให้ได้

สิ่งที่บริษัทเหล่านี้นิยมทำกัน คือ การนำเพชรที่ควรจะเจียระไนได้ 0.75 – 0.85 กะรัต (เพราะจะมีประกายดีที่สุด) มาเจียระไนให้ได้น้ำหนักมากกว่า 0.96 กะรัตแทน (หายาก) เพื่อที่จะสามารถนำมาขายได้ในราคา 1 กะรัต โดยทราบดี ว่าสัดส่วนอาจจะไม่เหมาะสมอย่างที่ควรจะเป็น

นี่จึงเป็นเหตุผล ที่ผมไม่แนะนำให้คุณซื้อเพชรแบบที่อยู่ในตัวเรือนแหวนแล้ว เพราะคุณจะไม่สามารถวัดน้ำหนักเพชรที่แท้จริงได้ และนี่ก็เป็นวิธีที่ร้านเพชรบางร้านใช้เพื่อหมกเม็ด ให้ตัวเองได้ขายของถูกนั่นเอง

อ่านเพิ่มเติม: ซื้อแหวนเพชรที่ไหนดี? ในห้าง VS ออนไลน์ VS สั่งทำ [เจาะลึก]

ภาพประกอบด้านล่าง คือ ตัวอย่างของราคาเพชร (USD) ที่ก้าวกระโดดตามกะรัตที่เพิ่มขึ้น คุณจะสังเกตุได้ว่ายิ่งเพชรมีขนาดกะรัตมากเท่าใด ราคาก็จะสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด (Exponential)
เพชร 1 กะรัตราคา ก้าวกระโดด
Above Diamond

ตารางราคากลางเพชร 1 กะรัต (Rapaport Price List)

ในส่วนของการตั้งราคาเพชร สามารถแบ่งได้เป็นสองกลุ่ม – กลุ่มที่ อิงจากราคากลางเพชร และกลุ่มที่ ไม่ได้อิงจากราคากลางเพชร โดยผมจะกล่าวถึงเฉพาะกลุ่มที่อิงจากราคากลาง

ตารางด้านล่าง คือ ราคากลางของเพชร 1 กะรัต ที่อัพเดทล่าสุด โดยแปลงค่าเงินจากสกุลดอลลาร์สหรัฐฯมาเป็นสกุลเงินบาทแล้ว

ข้อมูลใน แนวนอน คือ Clarity หรือความสะอาดของเพชร ส่วนข้อมูลใน แนวตั้ง คือ Color หรือน้ำของเพชร (ความขาว)

ROUND / 1.00IFVVS1VVS2VS1VS2
D (100)803,000624,200503,700427,100343,100
E (99)613,200532,900456,300390,600317,600
F (98)543,900485,500419,800365,000299,300
G (97)419,800397,900368,700324,900277,400
H (96)343,100324,900303,000281,100255,500
I (95)284,700270,100255,500237,300211,700
J (94)233,600219,000204,400189,800171,600

Rapaport Price List คือ อะไร?

ตารางราคากลางเพชร (Rapaport Price List) มีจุดเริ่มต้นมาจาก Mr.Martin Rapaport ซึ่งเคยเป็นคนเจียระไนเพชรในเมืองแอนต์เวิร์ป (Antwerp) ประเทศเบลเยี่ยม (Belgium)

เมื่อปี 1975 เขาได้เริ่มขายเพชรร่วงทั้งแบบที่ยังไม่ได้เจียระไน และแบบที่เจียระไนแล้วในเมืองนิวยอร์ก ต่อมาในปี 1978 เขาจึงได้รวบรวมออกมาเป็นตารางราคากลางเพื่อให้ซื้อขายได้สะดวกขึ้น จึงเกิดเป็นตารางราคากลางเพชร (Rapaport Price List) ที่นิยมใช้กันจนถึงทุกวันนี้

Rapaport Price List (เรียกสั้นๆว่า Rap List) จะอัพเดททุกวันศุกร์ แต่โดยปกติราคาจะไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงเท่าไร หรือนานๆทีจึงจะเปลี่ยน (หลายเดือน)

Rap List จะใช้เป็นมาตรฐานในการกำหนดราคาเพชรร่วงทั้งหมดที่ขายในช่วง Clarity SI3 หรือมากกว่า และ K Color (น้ำ 93) หรือมากกว่า (ถึงแม้ว่าใน Rap List จะแจ้งราคาในช่วงที่ต่ำกว่านั้นด้วย แต่ในวงการไม่นิยมใช้กัน)

อ่านเพิ่มเติม: 4C’s of Diamonds

ส่วนลดและส่วนเพิ่ม (Discount & Premium)

การซื้อเพชรเป็นศาสตร์และศิลป์อย่างหนึ่ง เพราะในตาราง Rap List อาจจะมีเพชรบางเม็ดที่มีส่วนลด (Discount) ในขณะที่เพชรบางเม็ดอาจขายแพงกว่านั้น (Premium)

นั่นเป็นเพราะ มีหลายปัจจัยที่จะกำหนดราคาเพชร นอกเหนือจากน้ำหนัก (Carat) และน้ำ (Color) ยังมีเรื่องของ การเจียระไน (Cut) ตำแหน่งของตำหนิ (Inclusion) และความเรืองแสง (Fluorescence) ที่ต้องพิจารณาประกอบด้วย

เรื่องราคาเพชร จึงอาจเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ยาก สำหรับผู้บริโภคทั่วไปที่ไม่ได้อยู่ในวงการ คุณจึงควรหาเพื่อนที่อยู่ในวงการเพชรสักคน เพื่อที่คุณจะได้ขอคำแนะนำจากเขาได้

อ่านเพิ่มเติม: 4 เคล็ดลับเลือก “แหวนเพชรผู้หญิง” ให้คุณสวย และรวยมาก!

จุดที่คุณภาพสมราคา (Sweet Spot of Value)

กลับมาพูดถึงเรื่องราคาเพชรใน Rap List ผมอยากให้คุณลองสังเกตุวิธีการตั้งราคาในตาราง เพชร 1 กะรัต อีกสักครั้ง

คุณเห็นอะไรที่แปลกไปไหม?

ใช่แล้ว ราคาในตาราง Rap List นั้นไม่มีความสม่ำเสมอกันเลยสักนิด!

ตัวอย่าง: หากคุณลองพิจารณาราคาเพชร 1 กะรัต คุณจะพบว่าระหว่างเพชร D / VVS2 กับ E / VVS2 นั้นมีราคาต่างกันถึง 87,000 บาท แต่ถ้าลดคุณภาพน้ำไปอีก 1 ระดับเป็น F / VVS2 ราคาจะต่างกับ E / VVS2 อยู่เพียง 26,000 บาท

นั่นหมายความว่า ถ้าคุณซื้อเพชร 1 กะรัต E / VVS2 คุณจะสามารถ ประหยัดเงิน ได้มากกว่าซื้อเพชร 1 กะรัต D / VVS2 อย่างมหาศาล

ถามว่าทำไมราคาถึงต่างกันขนาดนี้?

ผมเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกันครับ เพราะอย่างที่เคยพูดในเบื้องต้น ว่าเพชรเป็นสินค้าที่คนซื้อด้วยอารมณ์มากกว่าเหตุผล และการที่คนนิยมเพชร D Color (น้ำ 100) นั้นเป็นเรื่องของจิตวิทยาล้วนๆ

ในตัวอย่างเบื้องต้น คุณคงจะเห็นได้อย่างชัดเจน ว่าหากคุณซื้อเพชร 1 กะรัต D / VVS2 คงจะไม่คุ้มค่าเท่ากับ E / VVS2 ด้วยราคาที่ก้าวกระโดดไปไกล

เพราะฉะนั้น จึงสรุปได้ว่าการเลือกซื้อเพชรซักเม็ด ไม่จำเป็นที่คุณจะต้องเลือกสเปคที่สูงที่สุดเสมอไป ยกเว้นเสียแต่ว่าคุณมีงบประมาณที่เหลือเฟือ และมีความชื่นชอบเป็นกรณีพิเศษจึงตั้งใจซื้อจริงๆ

อ่านเพิ่มเติม: เพชร 3 EX คืออะไร? ทำความรู้จักกับ เหลี่ยมเพชร กันดีกว่า!

เลือกชมเพชร 1 กะรัต ตอนนี้

คุณสามารถคลิ๊กที่ลิงค์ด้านล่าง เพื่อเลือกชมราคาเพชร 1 กะรัตวันนี้

ดูราคาเพชร 1 กะรัต

อโบฟยินดีให้บริการคุณเสมอ

พูดคุยกับนักอัญมณีอโบฟไดมอนด์

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของท่าน กรุณาอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก