อัพเดทล่าสุด 18/07/2022 โดย Above Diamond
แหวนเพชร 1 กะรัตราคา เท่าไร? คงเป็นคำถามที่คุณกำลังสงสัยอยู่ เช่นเดียวกับเพื่อนๆ อีกหลายคน ที่กำลังมองเพชรเม็ดโตไว้ประดับบนแหวนแต่งงาน หรือแหวนเพชรเม็ดเดี่ยว
โดยทั่วไปแล้ว เพชร 1 กะรัต ราคาจะอยู่ระหว่าง 80,000-600,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรายละเอียดปลีกย่อยในส่วนอื่นๆ ด้วย เช่น น้ำ ความสะอาด การเจียระไน ฯลฯ ซึ่งเป็นขอบเขตที่กว้างพอสมควร
ซึ่งหากคุณเป็นลูกค้าที่ไม่ได้ซื้อเพชรเป็นประจำ คุณก็อาจจะเกิดความสงสัย ว่าทำไมราคาเพชร 1 กะรัต ถึงได้มีช่วงราคาที่กว้างขนาดนี้?
เราจะมาหาคำตอบไปพร้อมกันในบทความนี้ โดยเราจะโฟกัสไปที่ เพชรทรงกลม เท่านั้น เพราะเป็นเพชรที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แต่หากคุณกำลังมองหาเพชรรูปทรงอื่นๆ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ในบทความนี้: 12 เพชรแฟนซี รูปทรงเพชรยอดนิยม พร้อมเคล็ดลับการซื้อ!
ความรู้พื้นฐาน: กะรัตเพชร
สำหรับการวัดน้ำหนักเพชรทุกเม็ดบนโลกนี้ จะมีกฎตายตัวอยู่เพียง 2 ข้อ
-
- น้ำหนักเพชรนั้นวัดด้วยหน่วย กะรัต เสมอ
ตัวอย่าง: หากเพชร 0.5 กะรัต (50 ตัง) มีราคากะรัตละ 90,000 บาท นั่นแปลว่าราคาของเพชรเม็ดนั้นจะเท่ากับ 90,000 บาท * 0.5 กะรัต = 45,000 บาท ต่อเม็ดนั่นเอง
- ราคาของเพชร ต่อกะรัต จะเพิ่มขึ้น เมื่อเข้าสู่ ช่วงลำดับขั้น ที่สูงขึ้น
ซึ่งคล้ายกับการซื้อรถยุโรป ที่ยิ่งคุณเพิ่มอ็อปชันมากเท่าไร ราคาก็จะยิ่งสูงขึ้นมากเท่านั้น จนคุณอาจจะถอยรถญี่ปุ่นได้อีกคัน
เพราะฉะนั้น ราคาเพชรจะเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณไปพร้อมกับน้ำหนักกะรัต เนื่องจากราคาจะเพิ่มขึ้น นั้นมาจาก น้ำหนักเพชรที่เพิ่มขึ้น บวกกับ ราคาต่อกะรัตที่สูงขึ้น
เกร็ดความรู้: เพชร 1 ตัง = 0.01 กะรัต
สิ่งที่ต้องพิจารณา: ช่วงลำดับขั้น
ที่เราเน้นเรื่อง ช่วงลำดับขั้น เป็นเพราะคุณอาจจะเข้าใจผิด คิดว่าราคาเพชรต่อกะรัตจะเพิ่มขึ้นตามน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น แต่นั่นไม่เป็นความจริงเสมอไป เนื่องจากเพชรเป็นสินค้าที่ซื้อขายกันโดยอารมณ์อยู่เหนือเหตุผล
ตัวอย่าง: ถึงแม้ว่าเพชร 0.99 กะรัตจะมีราคามากกว่าเพชร 0.98 กะรัตที่มีคุณภาพเดียวกันเพียง 1% แต่ถ้าหากเป็นเพชร 1.00 กะรัต จะมีราคามากกว่าเพชร 0.99 กะรัตที่มีคุณภาพเดียวกันถึง 5-15%
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?
อาจจะมาจากความภาคภูมิใจ ที่ผู้ซื้อสามารถบอกคนอื่นได้อย่างเต็มปาก ว่าเพชรของตน คือ เพชร 1 กะรัต แต่ถ้าวิเคราะห์ให้ดี ว่าทำไมคนจึงนิยมเพชร 1 กะรัต ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของจิตวิทยา (Psychology) และอุปสงค์ (Demand) ล้วนๆ
และนี่ก็เป็นเพียงหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ในตลาด มีเพชรคุณภาพต่ำปะปนอยู่มากมายนั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม: เลิกใส่แหวนผิดไซซ์สักที! วิธีวัดไซซ์แหวน แบบง่ายๆ และแม่นยำ
คุณภาพการเจียระไน (Cut) ส่งผลต่อราคาเพชรอย่างไร?
จากที่เราได้กล่าวในเบื้องต้น เพชรที่มีน้ำหนัก 1.00 กะรัต อาจมีราคาสูงกว่าเพชรที่มีน้ำหนัก 0.99 กะรัตกว่า 5-15% (ขึ้นอยู่กับคุณภาพแต่ละเม็ดด้วย)
ถ้าคุณกำลังนึกภาพตาม คุณคงจะนึกอยู่ในใจว่า “ถ้าอย่างนั้นช่างที่เจียระไนเพชรออกมาเหลือ 0.99 กะรัต จะโดนไล่ออกจากงานไหมนะ?”
ในความเป็นจริง ถ้าเพชร 0.99 กะรัตได้รับการเจียระไนออกมางามกว่าเพชร 1.00 กะรัต ราคาอาจต่ำกว่าเพียง 3-10% เนื่องจากผู้ซื้อยังให้ความนิยมในเพชรเต็มกะรัตมากกว่าอยู่ดี
และนี่ก็เป็นเทคนิคอย่างหนึ่ง ที่บริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการนั้นรู้กัน ว่าควรจะเจียระไนเพชร ให้อยู่ในลำดับขั้น 1 กะรัตให้ได้
สิ่งที่บริษัทเหล่านี้นิยมทำกัน คือ การนำเพชรที่ควรจะเจียระไนได้ 0.75 – 0.85 กะรัต (เพราะจะมีประกายดีที่สุด) มาเจียระไนให้ได้น้ำหนักมากกว่า 0.96 กะรัตแทน (หายาก) เพื่อที่จะสามารถนำมาขายได้ในราคา 1 กะรัต โดยทราบดี ว่าสัดส่วนอาจจะไม่เหมาะสมอย่างที่ควรจะเป็น
นี่จึงเป็นเหตุผล ที่เราไม่แนะนำให้คุณซื้อเพชรแบบที่อยู่ในตัวเรือนแหวนแล้ว เพราะคุณจะไม่สามารถวัดน้ำหนักเพชรที่แท้จริงได้ และนี่ก็เป็นวิธีที่ร้านเพชรบางร้านใช้เพื่อหมกเม็ด ให้ตัวเองได้ขายของถูกนั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม: ซื้อแหวนเพชรที่ไหนดี? ในห้าง VS ออนไลน์ VS สั่งทำ [เจาะลึก]
ภาพประกอบด้านล่าง คือ ตัวอย่างของราคาเพชร (USD) ที่ก้าวกระโดดตามกะรัตที่เพิ่มขึ้น คุณจะสังเกตได้ว่ายิ่งเพชรมีขนาดกะรัตมากเท่าใด ราคาก็จะสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด (Exponential)
Above Diamond
ตารางราคากลางเพชร 1 กะรัต (Rapaport Price List)
ในส่วนของการตั้งราคาเพชร สามารถแบ่งได้เป็นสองกลุ่ม – กลุ่มที่ อิงจากราคากลางเพชร และกลุ่มที่ ไม่ได้อิงจากราคากลางเพชร โดยเราจะกล่าวถึงเฉพาะกลุ่มที่อิงจากราคากลาง
ตารางด้านล่าง คือ ราคากลางของเพชร 1 กะรัต ที่อัปเดตล่าสุดปีปัจจุบัน โดยแปลงค่าเงินจากสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ มาเป็นสกุลเงินบาทแล้ว
ข้อมูลใน แนวนอน คือ Clarity หรือความสะอาดของเพชร ส่วนข้อมูลใน แนวตั้ง คือ Color หรือน้ำของเพชร (ความขาว)
ROUND / 1.00 | IF | VVS1 | VVS2 | VS1 | VS2 |
---|---|---|---|---|---|
D (100) | 552,000 | 441,600 | 372,600 | 331,200 | 276,000 |
E (99) | 431,300 | 383,000 | 338,100 | 300,200 | 248,400 |
F (98) | 379,500 | 345,000 | 307,100 | 272,600 | 231,200 |
G (97) | 293,300 | 276,000 | 255,300 | 238,100 | 207,000 |
H (96) | 234,600 | 220,800 | 210,500 | 200,100 | 186,300 |
I (95) | 200,100 | 189,800 | 179,400 | 169,100 | 155,300 |
J (94) | 169,100 | 155,300 | 141,500 | 131,100 | 124,200 |
Rapaport Price List คือ อะไร?
ตารางราคากลางเพชร (Rapaport Price List) มีจุดเริ่มต้นมาจาก Mr.Martin Rapaport ซึ่งเคยเป็นคนเจียระไนเพชรในเมืองแอนต์เวิร์ป (Antwerp) ประเทศเบลเยียม (Belgium)
เมื่อปี 1975 เขาได้เริ่มขายเพชรร่วงทั้งแบบที่ยังไม่ได้เจียระไน และแบบที่เจียระไนแล้วในเมืองนิวยอร์ก ต่อมาในปี 1978 เขาจึงได้รวบรวมออกมาเป็นตารางราคากลางเพื่อให้ซื้อขายได้สะดวกขึ้น จึงเกิดเป็นตารางราคากลางเพชร (Rapaport Price List) ที่นิยมใช้กันจนถึงทุกวันนี้
Rapaport Price List (เรียกสั้นๆ ว่า Rap List) จะอัปเดตทุกวันศุกร์ แต่โดยปกติราคาจะไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงเท่าไร หรือนานๆ ทีจึงจะเปลี่ยน (หลายเดือน)
Rap List จะใช้เป็นมาตรฐานในการกำหนดราคาเพชรร่วงทั้งหมดที่ขายในช่วง Clarity SI3 หรือมากกว่า และ K Color (น้ำ 93) หรือมากกว่า (ถึงแม้ว่าใน Rap List จะแจ้งราคาในช่วงที่ต่ำกว่านั้นด้วย แต่ในวงการไม่นิยมใช้กัน)
อ่านเพิ่มเติม: 4C’s of Diamonds
ส่วนลดและส่วนเพิ่ม (Discount & Premium)
การซื้อเพชรเป็นศาสตร์และศิลป์อย่างหนึ่ง เพราะในตาราง Rap List อาจจะมีเพชรบางเม็ดที่มีส่วนลด (Discount) ในขณะที่เพชรบางเม็ดอาจขายแพงกว่านั้น (Premium)
นั่นเป็นเพราะ มีหลายปัจจัยที่จะกำหนดราคาเพชร นอกเหนือจากน้ำหนัก (Carat) และน้ำ (Color) ยังมีเรื่องของ การเจียระไน (Cut) ตำแหน่งของตำหนิ (Inclusion) และความเรืองแสง (Fluorescence) ที่ต้องพิจารณาประกอบด้วย
เรื่องราคาเพชร จึงอาจเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ยาก สำหรับผู้บริโภคทั่วไปที่ไม่ได้อยู่ในวงการ คุณจึงควรหาเพื่อนที่อยู่ในวงการเพชรสักคน เพื่อที่คุณจะได้ขอคำแนะนำจากเขาได้
อ่านเพิ่มเติม: 4 เคล็ดลับเลือก “แหวนเพชรผู้หญิง” ให้คุณสวย และรวยมาก!
จุดที่คุณภาพสมราคา (Sweet Spot of Value)
กลับมาพูดถึงเรื่องราคาเพชรใน Rap List เราอยากให้คุณลองสังเกตวิธีการตั้งราคาในตาราง เพชร 1 กะรัต อีกสักครั้ง
คุณเห็นอะไรที่แปลกไปไหม?
ใช่แล้ว ราคาในตาราง Rap List นั้นไม่มีความสม่ำเสมอกันเลยสักนิด!
ตัวอย่าง: หากคุณลองพิจารณาราคาเพชร 1 กะรัต คุณจะพบว่าระหว่างเพชร D / VVS2 กับ E / VVS2 นั้นมีราคาต่างกันถึง 87,000 บาท แต่ถ้าลดคุณภาพน้ำไปอีก 1 ระดับเป็น F / VVS2 ราคาจะต่างกับ E / VVS2 อยู่เพียง 26,000 บาท
นั่นหมายความว่า ถ้าคุณซื้อเพชร 1 กะรัต E / VVS2 คุณจะสามารถ ประหยัดเงิน ได้มากกว่าซื้อเพชร 1 กะรัต D / VVS2 อย่างมหาศาล
ถามว่าทำไมราคาถึงต่างกันขนาดนี้?
เราเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน เพราะอย่างที่ได้แจ้งในเบื้องต้น ว่าเพชรเป็นสินค้าที่คนซื้อด้วยอารมณ์มากกว่าเหตุผล และการที่คนนิยมเพชร D Color (น้ำ 100) นั้นเป็นเรื่องของจิตวิทยาล้วนๆ
ในตัวอย่างเบื้องต้น คุณคงจะเห็นได้อย่างชัดเจน ว่าหากคุณซื้อเพชร 1 กะรัต D / VVS2 คงจะไม่คุ้มค่าเท่ากับ E / VVS2 ด้วยราคาที่ก้าวกระโดดไปไกล
เพราะฉะนั้น จึงสรุปได้ว่าการเลือกซื้อเพชรสักเม็ด ไม่จำเป็นที่คุณจะต้องเลือกสเปกที่สูงที่สุดเสมอไป ยกเว้นเสียแต่ว่าคุณมีงบประมาณที่เหลือเฟือ และมีความชื่นชอบเป็นกรณีพิเศษจึงตั้งใจซื้อจริงๆ
อ่านเพิ่มเติม: เพชร 3 EX คืออะไร? ทำความรู้จักกับ เหลี่ยมเพชร กันดีกว่า!
เลือกชมเพชร 1 กะรัต ตอนนี้
คุณสามารถคลิกที่ลิงก์ด้านล่าง เพื่อเลือกชมราคาเพชร 1 กะรัตวันนี้