เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อเพชร GIA HRD IGI ปรับปรุงข้อมูลล่าสุดวันที่ 17/02/2019



ราคาเพชรต่อเม็ด
คุณสามารถค้นหาเพชรแท้ตามคุณภาพ หรืองบประมาณที่คุณกำหนดไว้ ได้จากคลังเพชรกว่าหลายหมื่นเม็ดของเราจากทั่วทุกมุมโลก โดยคุณสามารถคลิ๊กที่แต่ละรายการ เพื่อเลือกดูราคาเพชรแต่ละเม็ด ข้อมูลโดยละเอียด รวมถึงใบเซอร์ GIA HRD IGI ได้ทันที
ถึงแม้ว่าเพชรบางเม็ด จะมีคุณลักษณะ Carat, Color, Cut, Clarity ในใบเซอร์เหมือนกัน แต่ราคาอาจแตกต่างกันเนื่องจากหลายปัจจัย เช่น ตำแหน่ง/ประเภทของตำหนิเพชร, Fluorescence, Hearts and Arrows, ฯลฯ
สนใจสอบถาม หรือให้เราช่วยเลือกเพชรที่เหมาะสมกับคุณที่สุด?
ตาราง ราคาเพชรวันนี้ (17/02/2019)
เพื่อให้คุณสามารถซื้อเพชรได้อย่างมั่นใจ เราจึงได้รวบรวมตาราง ราคาเพชรวันนี้ ซึ่งใช้เป็นราคากลางอ้างอิงในระดับสากล สำหรับการซื้อขาย เพชรทรงกลม โดยเราจะทำการตรวจสอบและปรับปรุงข้อมูลอยู่ตลอดเวลา เพื่อที่คุณได้ทราบราคาเพชร ณ ปัจจุบันอยู่เสมอ
วิธีอ่าน ตารางราคาเพชร
ตารางราคาเพชร แสดงถึงราคาอ้างอิงโดยใช้หน่วยเป็น X บาทต่อ 1 กะรัต ซึ่งใช้เป็นหลักในการคำนวณราคาเพชรทั่วไป
หากคุณต้องการทราบ ราคาเพชรต่อเม็ด สามารถคำนวณได้ด้วยตัวเองอย่างง่ายดาย ดังนี้:
ตัวอย่างที่ 1: คุณมีเพชรทรงกลม น้ำหนัก 50 ตัง (0.50 กะรัต) น้ำ 99 (E-Color) ความสะอาด VVS2 ให้คุณเข้าไปดูใน ตารางราคาเพชร 0.50-0.59 กะรัต (เพราะอยู่ในช่วงเพชร 50 ตัง) แล้วมองหาราคาต่อกะรัต ที่ตรงกับคุณภาพเพชรของคุณ แล้วจึงนำเลขภายในช่องมา คูณกับ 0.50 ก็จะได้เป็นราคาเพชรต่อเม็ดแบบคร่าวๆ
ตัวอย่างที่ 2: คุณมีเพชรทรงกลม น้ำหนัก 1.07 กะรัต น้ำ 98 (F-Color) ความสะอาด VS1 ให้คุณเข้าไปดูใน ตารางราคาเพชร 1.00-1.49 กะรัต (เพราะอยู่ในช่วงเพชร 1.07 กะรัต) แล้วมองหาราคาต่อกะรัต ที่ตรงกับคุณภาพเพชรของคุณ แล้วจึงนำเลขภายในช่องมา คูณกับ 1.07 ก็จะได้เป็นราคาเพชรต่อเม็ดแบบคร่าวๆ
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาเพชร
ตารางราคาเพชรอ้างอิง ถือเป็นเพียงราคาคร่าวๆเพื่อใช้เป็นหลักในการตั้งราคา โดยจะเทียบได้เฉพาะ Color กับ Clarity แต่ในความจริง ยังมีอีกหลากหลายปัจจัยนอกเหนือจาก 4C’s of Diamonds ที่สามารถส่งผลต่อราคาเพชรเม็ดนั้นๆ ทำให้ราคาเพชรสูงหรือต่ำกว่าราคากลางได้ ดังนี้:
1. Carat
Carat หรือ น้ำหนักกะรัตของเพชรจะส่งผลต่อราคาโดยตรง เช่น หากมีเพชร 2 เม็ดที่มีคุณภาพเหมือนกันทุกอย่าง เพียงแต่เม็ดหนึ่งมีน้ำหนัก 50 ตัง ในขณะที่อีกเม็ดหนึ่งมีน้ำหนัก 53 ตัง แน่นอนว่าเพชรเม็ดหลังต้องมีราคาสูงกว่าเม็ดแรก
นอกจากนี้ เพชรจะมีมูลค่าสูงขึ้นหากอยู่ในเกณฑ์ Premium Size หรือขนาดที่คาบเกี่ยวไปทางช่วงปลายของราคา เช่น:
- เพชรขนาดพรีเมียมน้ำหนัก 0.36 – 0.39 กะรัต และ 0.46 – 0.49 กะรัต ราคาเพชรมักจะสูงกว่าปกติ 10% – 20%
- เพชรขนาดพรีเมียมน้ำหนัก 0.60 – 0.69 กะรัต และ 0.80 – 0.89 กะรัต ราคาเพชรมักจะสูงกว่าปกติ 7% – 12%
- เพชรขนาดพรีเมียมน้ำหนัก 0.95 – 0.99 กะรัต และ 1.24 – 1.49 กะรัต ราคาเพชรมักจะสูงกว่าปกติ 5% – 10%
- เพชรขนาดพรีเมียมน้ำหนัก 1.70 – 1.99 กะรัต ราคาเพชรมักจะสูงกว่าปกติ 7% – 12%
- เพชรขนาดพรีเมียมน้ำหนัก 2.50 – 2.99 กะรัต ราคาเพชรมักจะสูงกว่าปกติ 5% – 10%
- เพชรขนาดพรีเมียมน้ำหนัก 3.50 – 3.99 กะรัต และ 4.50 – 4.99 กะรัต ราคาเพชรมักจะสูงกว่าปกติ 5% – 10%
2. Cut
Cut หรือ คุณภาพการเจียระไน ส่งผลต่อการเล่นไฟของเพชรโดยตรง จึงเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่จะกำหนดมูลค่าของเพชรเม็ดนั้น เช่น เพชร 3 Excellent ย่อมมีราคาสูงกว่าเพชรที่เป็น Very Good, Good, Fair และ Poor ตามลำดับ
3. Fluorescence
Fluorescence หรือ การเรืองแสงของเพชรภายใต้แสง UV ส่งผลต่อสีของเพชรทำให้ดูมีสีฟ้าโดยเฉพาะในเพชรน้ำขาว เช่น น้ำ 100-96 แต่ในบางกรณีเพชรมี Fluorescence อาจมีข้อดีเพราะจะทำให้เพชรดูขาวยิ่งขึ้น
โดยปกติเพชรที่มี Fluorescence จะมีมูลค่าต่ำกว่าเพชรที่ไม่มี Fluorescence จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด
4. Certificate
Certificate หรือ ใบเซอร์เพชรที่รับรองโดยสถาบันชื่อดัง จะมีราคาสูงกว่าเพชรที่ไม่มีใบเซอร์ โดยหากเทียบระหว่างใบเซอร์ GIA กับ HRD แล้ว มูลค่าของเพชรใบเซอร์ GIA จะสูงกว่า HRD เล็กน้อย
ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าเพชรใบเซอร์ GIA จะสวยกว่าเพชร HRD แต่อย่างใด เพราะทั้งสองสถาบันนี้ ได้รับการยอมรับในเรื่องความแม่นยำในการตรวจวิเคราะห์เพชรอยู่แล้ว เพียงแต่เพชรใบเซอร์ GIA มีชื่อเสียงมากเป็นอันดับ 1 จึงได้รับความต้องการ (Demand) ในตลาดโลกมากกว่าเพชรใบเซอร์ HRD ก็เท่านั้นเอง
5. Exchange Rate
เช่นเดียวกับราคาทองคำและราคาน้ำมัน ราคาเพชรในไทยจะอ้างอิงจาก US Dollar โดยตรง เพราะฉะนั้นอาจมีการปรับเปลี่ยนได้ตามสภาวะตลาด หากอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างดอลลาร์สหรัฐกับบาทไทยมีความผันผวน
หากคุณมีคำถาม หรือข้อสงสัยเกี่ยวกับราคาเพชรแท้ สามารถติดต่อเราได้ตอนนี้