อัพเดทล่าสุด 14/09/2022 โดย Above Diamond

จัดงานแต่งงาน: Checklist ละเอียดที่ทุกคู่รักต้องมีติดมือ

รายการงานเช็คลิส

แชร์บทความนี้

การจัดงานแต่งงานไม่ใช่เรื่องง่าย และถือเป็นก้าวแรกและก้าวสำคัญในการวางแผนชีวิตคู่ หลายคู่พยายามคลำหาหนทางจัดงานแต่งด้วยตัวเอง แต่ก็ใช่ว่างานจะออกมาอย่างที่ใจหวัง จะดีกว่าไหมหากคุณมี “Checklist งานแต่งงาน” ซักแผ่นที่เข้ามาช่วยทำให้คุณอุ่นใจได้มากขึ้น

“Checklist งานแต่งงาน” ถือเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับงานใหญ่ที่สุดงานหนึ่งในชีวิตรักของคุณ เพราะการจัดงานแต่งงานเป็นเรื่องที่มีขั้นตอน มีรายละเอียดยิบย่อย ต้องการการวางแผนที่เป็นระบบ และหากมี organizer มาคอยช่วยจัดการ ก็คงจะช่วยให้คุณเบาใจไปได้มากพอสมควร

แต่ถ้าคุณและคู่รักต้องการประหยัดงบประมาณเพื่อเก็บเงินไว้สร้างครอบครัว ไม่ต้องการจ้าง organizer แต่เลือกที่จะวางแผนจัดงานแต่งงานด้วยตัวเองแล้วละก็ คุณก็คงจะมีความกังวลใจอยู่ดี ว่างานจะออกมาสมบูรณ์แบบตรงใจคุณและคู่รักอย่างที่หวังไว้หรือไม่

เพราะคู่รักส่วนใหญ่ก็คงจะมีโอกาสจัดงานแต่งงานเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต แถมเป็นงานสำคัญที่ยิ่งใหญ่ จะเริ่มต้นทำ checklist เองก็ไปไม่ถูก

แม้งานแต่งงานจะมีหลากหลายรูปแบบ หลากหลายธีม รวมถึงวิธีการที่แตกต่างกันออกไป แต่ก็ยังคงมีหลักการและขั้นตอนสำคัญๆ ที่ทุกคู่ต้องเตรียมวางแผนและจัดการเหมือนๆกัน ในวันนี้เราจึงได้รวบรวมนำเอาขั้นตอนต่างๆ ในการจัดงานแต่งงานมาแจกแจงเป็น checklist งานแต่งงาน ที่จะช่วยให้คุณและคนรักไม่พลาดขั้นตอนที่จำเป็นสำหรับวันสำคัญของคุณทั้งสองครับ

1. คุยกันระหว่างสองครอบครัว

การคุยกันระหว่างสองครอบครัว

ก่อนที่คุณและคู่รักจะข้ามไปคุยเรื่องวางแผนจัดงานแต่งงานในส่วนอื่นๆ เรามาเริ่มในขั้นตอนแรกกันก่อน ซึ่งเป็นขั้นตอนที่จะเรียกว่าง่ายก็ง่าย แต่จะเรียกว่าซับซ้อนก็คงจะจริงครับ

เมื่อคุณและคู่รักตกลงปลงใจจะแต่งงานกันแล้ว สิ่งแรกใน checklist ที่ควรทำก็คือการเข้าไปหาคุณพ่อคุณแม่ และนัดคุยกันระหว่างสองครอบครัวเรื่องรายละเอียดงานแต่งต่างๆ เนื่องจากประเพณีแต่งงานของไทยจะมีความแตกต่างจากงานแต่งงานแบบสากล หรือแบบฝั่งตะวันตก ที่โดยส่วนมากคู่รักจะเป็นผู้ตัดสินใจเลือกรูปแบบงานแต่งงานด้วยตนเองเป็นหลัก ไม่ได้พึ่งพิงความเห็นจากผู้ใหญ่มากเท่าบ้านเรา

เพราะเนื่องจากชาวไทยอย่างเรา มีขนบธรรมเนียมประเพณีที่ค่อนข้างอนุรักษ์นิยม (Conservative) โดยเฉพาะเรื่องการเคารพผู้ใหญ่ เข้าตามตรอกออกตามประตู เราก็ควรให้เกียรติคุณพ่อคุณแม่ทั้งสองฝ่าย ในการรับทราบถึงแนวทางงานแต่งงานที่คุณตัดสินใจเลือกด้วยครับ

โดยแนวทางการจัดงานแต่งงานที่ต้องคุยกันระหว่างสองครอบครัว จะเป็นแนวทางกว้างๆที่จะช่วยให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวเห็นภาพว่าต้องเตรียมการในรายละเอียดอะไรบ้าง เช่น ช่วงเวลาที่จะแต่งงาน ประเภทของพิธีการ ไม่ว่าจะเป็นพิธีแบบไทย พิธีแบบจีน พิธีแบบฝรั่ง หรือตามแต่ความเชื่อและวัฒนธรรมของแต่ละครอบครัว

ซึ่งหากทั้งสองครอบครัวยังคงมีข้อขัดแย้งในเรื่องรูปแบบงานแต่ง และยังเข้าใจไม่ตรงกัน เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะได้ให้เวลาของทั้งสองครอบครัวตกลงกันให้เรียบร้อย ก่อนที่จะกำหนดวันแต่งงานและเริ่มทำตาม checklist ในข้อถัดๆไปครับ

2. หาฤกษ์กำหนดวันแต่ง

การหาฤกษ์กำหนดวันแต่งงาน

เมื่อกำหนดช่วงเวลาคร่าวๆได้แล้วว่างานแต่งงานจะจัดขึ้นช่วงไหน ตามการตกลงกันของทั้งสองครอบครัว ขั้นตอนถัดไปตาม checklist งานแต่งงานก็คือ การระบุวันที่จะจัดงานอย่างแน่นอน โดยตามประเพณีไทยมักจะหาฤกษ์งามยามดี ที่เหมาะแก่งานแต่งมากที่สุด โดยอาจขอคำแนะนำจากพระ หรืออาจารย์จากสำนักที่แต่ละท่านนับถือให้ช่วยดูวันให้

ถึงแม้ว่าจะดูเหมือนเป็นเพียงความเชื่อ แต่เราก็มองว่ามีความสำคัญไม่น้อย เพราะถือเป็นการสร้างความสบายใจให้กับทุกฝ่าย อย่างไรก็ดี ให้เตรียมใจไว้เลย ว่าบ่อยครั้งหลายๆคู่ก็มักจะเลือกฤกษ์งานแต่งงานในวันเดียวกับคุณ ทำให้วันนั้นๆอาจมีงานแต่งพร้อมกันหลายงาน

และนั่นหมายความว่า ค่าใช้จ่ายสถานที่ หรือค่าจัดงานแต่งโดยรวม ก็อาจจะสูงขึ้นไปด้วยเนื่องจากมีความต้องการมากแต่มีสถานที่จำกัด ซึ่งอาจเป็นปัญหาได้หากคุณวางแผนจองสถานที่ช้าเกินไป

แต่หากคุณและคู่รักไม่ได้ถือเรื่องฤกษ์งามยามดีมากนัก และต้องการหลีกเลี่ยงการจัดงานแต่งวันเดียวกับผู้อื่น ก็สามารถเลือกฤกษ์ตามสะดวกได้ ซึ่งนั่นก็คือวันที่บ่าวสาว แขกผู้ใหญ่ และแขกคนสำคัญว่างตรงกัน หรือบางคู่อาจเลือกเป็นวันที่ทั้งสองเคยสร้างความหมายดีๆร่วมกันแทนก็ได้

3. ตั้งงบประมาณที่จะใช้ทั้งหมด

การตั้งงบประมาณงานแต่งงาน

การตั้งงบประมาณถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดของ checklist งานแต่งงาน และคุณควรฝึกทักษะนี้ให้เป็นตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการวางแผนการเงินให้กับครอบครัวของคุณได้อย่างราบรื่น

สิ่งที่คุณควรทำก็คือ ให้กำหนดงบประมาณสำหรับงานว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดควรเป็นเท่าไหร่ ทั้งนี้ทั้งนั้น ให้คุณลองคำนวณค่าใช้จ่ายงานแต่งงานคร่าวๆ ดูว่างานแต่งงานไซส์ไหนราคาประมาณไหน แล้วนำมาเทียบกับสถานะทางการเงินของคุณและคู่รักในขณะปัจจุบัน ว่ามีเงินเก็บเท่าไหร่ มีครอบครัวสนับสนุนค่าใช้จ่ายหรือไม่ และวางแผนจะคืนทุนเมื่อไหร่ โดยให้วางแผนตั้งงบประมาณไม่ให้กระทบกับชีวิตคู่หลังแต่งงานให้มากครับ

ถ้าหากสภาพทางการเงินยังไม่คล่องตัวแต่มีแผนจะจัดงานแต่งงานร่วมกัน หากช่วงเวลาจัดงานยังอยู่ห่างไปอีกหลายเดือนหรือเป็นปี บ่าวสาวอาจมีการวางแผนเก็บเงินร่วมกันเพื่อเอาไว้ใช้สำหรับการจัดงานแต่งงานก็ได้ครับ

อ่านต่อ: เปิดคัมภีร์ “ค่าใช้จ่ายงานแต่งงาน” สำหรับคู่รักทุกงบประมาณ

4. เลือกสถานที่จัดงาน

สถานที่จัดงานแต่งงาน

สิ่งที่ต้องทำใน checklist งานแต่งงานข้อถัดมาก็คือการเลือกสถานที่จัดงาน โดยเมื่อคุณตั้งงบประมาณที่จะใช้ทั้งหมดได้แล้ว ก็ให้รีบจองสถานที่จัดงานเอาไว้แต่เนิ่นๆ เพื่อไม่ให้คิวสถานที่แน่นจนคุณไม่สามารถหาที่จัดงานได้ รวมถึงจะทำให้คุณสามารถแจ้งแขกผู้มีเกียรติล่วงหน้าได้

นอกจากนี้ สถานที่จัดงานยังถือเป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายงานแต่งงานที่สูงที่สุดและสำคัญที่สุดใน checklist จึงต้องเลือกสถานที่จัดงานที่คุ้มค่าและตรงใจบ่าวสาว โดยให้คำนึงถึงงบประมาณเป็นอันดับแรก ตามด้วยความสะดวกและความเหมาะสมกับงานของคุณ

ถ้าหากงานแต่งงานของคุณมีขนาดใหญ่ ก็อาจจะจัดที่โรงแรมหรูได้ แต่ถ้าหากงานแต่งงานมีขนาดกลางไปจนถึงขนาดเล็ก สถานที่อาจไม่จำเป็นต้องเป็นโรงแรมหรู แต่อาจเป็นสโมสร ร้านอาหาร หรือสถานที่จัดงานแต่งขนาดเล็ก ไปจนถึงบ้านเจ้าบ่าวเจ้าสาวเองก็เป็นไปได้ทั้งหมดครับ

5. เตรียมถ่าย pre-wedding

การถ่ายพรีเวดดิ้ง (pre-wedding)

แม้การเตรียมถ่ายพรีเวดดิ้งจะดูเป็นส่วนเล็กๆใน checklist งานแต่งงาน แต่จริงๆแล้วรูปถ่ายพรีเวดดิ้งมีส่วนสำคัญอย่างมากที่ทำให้องค์ประกอบของงานแต่งงานสมบูรณ์แบบ โดยจะเป็นการโชว์รูปบ่าวสาวที่แสดงความรักแก่กันอย่างโรแมนติกและอบอุ่น

รูปพรีเวดดิ้งของคุณสามารถนำมาใช้ได้หลากหลาย ทั้งเป็นส่วนหนึ่งของการ์ดแต่งงาน การอัดรูปมาตั้งโชว์ในงานแต่ง ไปจนถึงการทำเป็น presentation งานแต่งงาน

โดยการถ่ายพรีเวดดิ้งนั้นสามารถทำได้เวลาไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นวันที่แน่นอน ขอเพียงแค่คุณและคู่รักสามารถหาช่างภาพในสไตล์ที่ตรงกับรูปแบบงานแต่งงานของคุณ ตกลงเรื่องราคาและวันเวลาให้เรียบร้อย และทำความคุ้นเคยกับช่างกล้อง เพื่อที่วันถ่ายรูปจริงจะได้ไม่เขินน่ากล้องมาก

ส่วนเรื่องของการเลือกสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งนั้นก็ให้ดูรูปแบบงานเป็นหลัก อีกทั้งคุณยังสามารถหา package ถ่ายรูปพรีเวดดิ้งที่ทำให้คุณสามารถถ่ายพรีเวดดิ้งได้ทั้งนอกสถานที่และในสตูดิโอ หรือถ้าหากคุณมีงบประมาณเพียงพอจะจัดทริปถ่ายพรีเวดดิ้งที่ต่างประเทศก็จะทำให้คุณได้รูปถ่ายพรีเวดดิ้งที่ดูโรแมนติกและหรูหราขึ้นไปอีกระดับครับ

ส่วนเรื่องชุดสำหรับถ่ายพรีเวดดิ้งนั้น ยังไม่ต้องกังวลมากนักเวลาทำ checklist งานแต่งงาน เนื่องจากคุณยังไม่ต้องใช้ชุดแต่งงานจริง เพียงแต่ไปเช่ามาหรือจะใส่ชุดธรรมดาถ่ายก็ได้เหมือนกันครับ

อ่านต่อ: 7 ขั้นตอนเลือก “สถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง” ให้เพอร์เฟกต์แบบที่คุณใฝ่ฝัน

6. เตรียมเชิญแขก

แขกในงานแต่งงาน

การเตรียมเชิญแขกสามารถเริ่มทำได้ภายหลังจากที่ดูฤกษ์วันแต่งงานและจองสถานที่ไว้เรียบร้อยแล้ว โดยบางคู่หากมีงบประมาณที่จำกัด ทำให้งานแต่งงานไม่ได้เป็นงานใหญ่มากและต้องจำกัดจำนวนแขกที่มาร่วมงาน ก็จะต้องมานั่งวางแผนด้วยกันว่าจะเชิญใครที่สำคัญกับชีวิตเราเข้ามาร่วมงานบ้าง และจะมีวิธีอธิบายให้ผู้ที่ไม่ได้รับเชิญอย่างไรให้ไม่เสียน้ำใจ

โดยวิธีการเชิญ ก็แล้วแต่คู่บ่าวสาวว่าควรทำอย่างไรเลยครับ อย่างเช่น ถ้าหากเป็นแขกผู้ใหญ่ที่ต้องมาเป็นสักขีพยานหรือประธานในพิธีงานแต่ง ก็คงต้องแจ้งล่วงหน้าเป็นเวลานานซักหน่อย เพื่อให้มั่นใจว่าท่านจะสามารถมาร่วมพิธีกับเราได้

บ่าวสาวสามารถเชิญแขกเป็นการส่วนตัวเพื่อแจกการ์ดแต่งงาน ถือเป็นการให้เกียรติแขกที่มาร่วมงาน ซึ่งทำได้ทั้งกับญาติผู้ใหญ่และคนที่คู่แต่งงานใกล้ชิดสนิทสนม

แต่สำหรับคนอื่นๆแล้ว หากมีแขกมาร่วมงานมากที่ไม่ได้เป็นคนใกล้ชิด คุณก็สามารถเชิญแขกโดยการส่งการ์ดแต่งงานไปให้ที่บ้านก็ได้ครับ

7. เลือกชุดแต่งงาน ช่างหน้า ช่างผม

การเลือกชุดแต่งงาน ช่างแต่งหน้าทำผม

ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากๆ เพราะจะเป็นสิ่งที่บ่งบอกความเป็นเจ้าบ่าวและเจ้าสาวในวันสำคัญ ซึ่งทั้งสองควรจะดูดีและโดดเด่นที่สุดในงาน และต้องอย่าลืมพิจารณางบประมาณด้วยว่าจะมีงบประมาณให้กับชุดแต่งงานเท่าไหร่และจะจัดการอย่างไร

คุณควรเริ่มมองหาชุดแต่งงานตั้งแต่เนิ่นๆ และไปลองแบบชุดแต่งงานหลายๆแบบเพื่อเลือกแบบที่เหมาะสมที่สุด

ที่สำคัญ คู่แต่งงานจะต้องพยายามควบคุมและรักษาหุ่นไม่ให้เปลี่ยนแปลงมากนัก หรือทางที่ดีหากสามารถลดหุ่นให้ผอมเพรียวลงก่อนวันแต่งงานได้ก็จะทำให้คุณใส่ชุดแต่งงานออกมาสวยสง่ายิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ถ้าหากมีการเปลี่ยนแปลงของรูปร่าง ก็ควรรีบเข้าไปปรึกษาช่างตัดชุดแต่งงาน เพื่อให้แก้ชุดให้พอดีกับหุ่นได้ทันการ นอกจากนี้ เรื่องช่างแต่งหน้าและช่างทำผม ถ้าหากอยากได้ช่างที่ฝีมือดี เป็นที่รู้จักจริงๆ อาจจะต้องจองล่วงหน้านานๆ ช่างก็จะได้มีคิวกำหนดไว้ให้คุณครับ

8. เลือกแหวนแต่งงาน

แหวนแต่งงาน

แหวนแต่งงานถือเป็นประเพณีเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้ โดยจะถือเป็นหลักฐานแสดงความรักของคู่รักทั้งสอง ที่ตกลงปลงใจใช้ชีวิตร่วมกัน และเพื่อให้พิธีการงานแต่งสมบูรณ์แบบ ในการเลือกแหวนแต่งงาน คุณและคู่รักจึงควรพิถีพิถันเลือกแหวนเพชรที่เหมาะสม และแทนความหมายดีๆของคนทั้งคู่ได้มากที่สุด รวมถึงให้พิจารณาถึงงบประมาณ และเลือกแหวนเพชรแท้ที่มีคุณภาพสมกับราคา

สำหรับการเริ่มเลือกแหวนแต่งงาน คุณสามารถเริ่มได้ช้าที่สุดประมาณ 3 เดือนก่อนวันงาน เพื่อจะได้มีเวลาตกลงเลือกแบบแหวนเพชร เลือกกะรัตเพชร คุณภาพเพชร และสั่งทำแหวนแต่งงานได้ทันเวลา

แต่หากมีเวลานานกว่านั้นก็ถือว่ายิ่งดี เพราะเราจะได้สามารถวางแผนเลือกแบบแหวนเพชรแต่งงาน ที่ทั้งสองชื่นชอบมากที่สุด

ในเบื้องต้น เราแนะนำให้คุณใช้หลัก 4Cs ในการตรวจสอบคุณภาพและเลือกเพชรที่มีใบ certificate ถ้าต้องการสวมใส่เพชรแท้มีคุณภาพดี ตรงกับที่เราต้องการครับ

อ่านต่อ: วิธีเลือกซื้อแหวนแต่งงานที่คุณและคู่รักต้องอ่าน

9. เลือกรูปแบบและรายละเอียดงาน อาหาร พิธีการ ของตกแต่ง

อาหารในงานแต่งงาน

สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะมีรายละเอียดยิบย่อยค่อนข้างมาก ซึ่งหากคุณเลือกจองสถานที่จัดงานแต่งงานที่เป็นโรงแรมหรือสถานที่ที่มีแพคเกจงานแต่งโดยเฉพาะก็จะช่วยประหยัดเวลาได้ เพราะจะมีรายละเอียดการตกแต่ง ดอกไม้ อาหาร และลักษณะวงดนตรีให้คุณเลือกได้ตามใจชอบ ทำให้คุณไม่ต้องเสียเวลาคุยกับตัวแทนจากหลากหลายบริการนัก

แต่ถ้าคุณเลือกที่จะไม่ใช้แพคเกจงานแต่ง ก็จะต้องดูแลรายละเอียดให้ดีอย่าให้ตกหล่น โดยอาจขอให้เพื่อนเจ้าบ่าวหรือเพื่อนเจ้าสาวที่เคยมีประสบการณ์จัดงานแต่งงานเข้ามาช่วยในการจัดการและรันคิวในวันจริงก็ได้ครับ

10. เตรียมสภาพร่างกาย และจิตใจให้พร้อม

บ่าวสาวเตรียมตัวเตรียมใจ

เมื่อจัดการทุกอย่างเข้าที่เรียบร้อยแล้ว ก็เป็นคิวของบ่าวสาวที่จะต้องไปเตรียมเนื้อเตรียมตัว เข้าคอร์สเจ้าสาว เพื่อจะได้สวยและโดดเด่นที่สุดในวันแต่งงาน หรือหากคู่รักคู่ไหนวางแผนว่าจะมีลูกภายหลังแต่งงานเลย ก็สามารถพากันไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล เพื่อที่จะได้วางแผนสร้างครอบครัวในอนาคตได้อย่างปลอดภัยครับ

สรุป: อย่าได้กังวล แล้วมาสนุกกับงานแต่งงานกันดีกว่า

แม้ว่าทั้งหมดที่เราพูดถึงในบทความนี้ อาจจะดูแล้วมีรายละเอียดยิบย่อยมาก และดูเหมือนว่าจำเป็นต้องทำหลายอย่างให้ทันภายในเวลาจำกัด

แต่ถ้าคุณไม่กังวลมากไปกับทุกสิ่งอย่าง และอยู่กับปัจจุบัน คุณก็จะสามารถมองเห็นภาพงานแต่งงานสุดเพอร์เฟกต์ในแบบฉบับของคุณ ที่จะกลายเป็นเรื่องจริงในเร็วๆนี้ ซึ่งถึงแม้จะเป็นงานเล็กๆ ที่ไม่ได้หรูหราที่สุด แต่ก็ยังสามารถสร้างรอยยิ้ม สร้างเสียงหัวเราะ สร้างความทรงจำดีๆ ให้กับทั้งคุณทั้งสอง รวมไปถึงพ่อแม่ที่จะรู้สึกปลื้มปิติ อิ่มเอมใจที่จะได้เห็นลูกของตัวเอง มีความสุขในการเริ่มต้นบทต่อไปของชีวิต

เพียงเท่านี้ วันสำคัญของคุณทั้งสอง ก็จะเป็นวันที่จะถูกจารึกไว้ เป็นความทรงจำสุดพิเศษตราบชั่วนิรันดร์

หากมีโอกาส เรายินดีที่จะเป็นส่วนหนึ่ง ในการร่วมสร้างความทรงจำดีๆนี้ไปกับคุณ โดยการสร้างสรรค์แหวนเพชรแต่งงาน ดีไซน์สุดพิเศษที่ออกแบบได้ตามที่คุณต้องการ ประดับด้วยเพชรคุณภาพสูงที่ผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน เพื่อเป็นเครื่องหมายแทนความรัก ที่จะอยู่เคียงคู่กับคุณในทุกแห่งหน ให้คุณทั้งสองรู้สึกถึงความรักและคิดถึงที่มีให้กันได้เสมอ

ขอแสดงความยินดีล่วงหน้ากับคุณและคนรัก และขอให้คุณทั้งสองมีความสุขในการใช้ชีวิตคู่ครับ

อโบฟยินดีให้บริการคุณเสมอ

พูดคุยกับนักอัญมณีอโบฟไดมอนด์

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของท่าน กรุณาอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก