
อัพเดทล่าสุด 01/10/2024 โดย Above Diamond
อัพเดทล่าสุด 07/09/2022 โดย Above Diamond
หลายคนมักพูดว่า ความรักไม่ควรมีเรื่องเงินทองเข้ามาเกี่ยว แต่การมีชีวิตคู่อยู่ร่วมกันนั้น การวางแผนการเงินและการทำงบประมาณสำหรับเริ่มต้นชีวิตคู่ก็สำคัญไม่แพ้กับเรื่องความรักเลยนะคะ ทราบไหมว่าเรื่องการเงินของชีวิตคู่นั้น เริ่มตั้งแต่การวางแผน “ค่าใช้จ่ายงานแต่งงาน” แล้ว
คู่รักหลายๆ คู่ก็คงใฝ่ฝันที่จะได้มีชีวิตคู่ร่วมกันตราบชั่วนิรันดร์ แต่ต้องอย่าลืมว่า นอกจากความรักหวานซึ้งเวลาใช้ชีวิตร่วมกันแล้ว ก็จะต้องมีการวางแผนชีวิตที่ดีร่วมกันได้ด้วย แม้ว่าตอนคุณตกหลุมรักกัน อาจไม่ได้ดูที่เงินทองหรือฐานะ แต่พอจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันจริงๆ แล้ว การวางแผนเรื่องค่าใช้จ่ายนั้นมีความสำคัญมาก ไม่ใช่แค่ในชีวิตประจำวันหลังแต่งงานเท่านั้นนะคะ แต่การทำงานเป็นทีมร่วมกันแล้วช่วยกันวางแผนการเงิน ได้เริ่มต้นตั้งแต่การจัดทำงบประมาณ “ค่าใช้จ่ายงานแต่งงาน” แล้วค่ะ เพื่อที่งานจะได้ออกมาได้ตรงใจทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวมากที่สุด และอยู่ในงบประมาณที่ทั้งคู่พอใจและสามารถจ่ายได้ค่ะ
โดยงานแต่งงานสามารถแยกออกเป็นได้ 3 ขนาด ขึ้นอยู่กับความสะดวกใจของบ่าวสาวว่าต้องการจัดงานใหญ่แค่ไหน ดังนี้ค่ะ
งานแต่งงานไซซ์มินิ: เป็นงานแต่งงานขนาดเล็กแต่อบอุ่น โดยมีแขกเข้าร่วมงานอยู่ที่ตั้งแต่ 10-50 คน เชิญเฉพาะเพื่อนสนิทและครอบครัวเท่านั้น เหมาะสำหรับคู่บ่าวสาวที่ไม่ต้องการให้ค่าใช้จ่ายงานแต่งบานปลายใหญ่โตมากนัก แต่จัดงานขนาดเล็กๆ พอตัวให้ได้สังสรรค์กับเพื่อนที่สนิทจริงๆ เงินที่เหลือก็อาจจะเอาไปเที่ยวหรือเก็บเอาไว้เป็นเงินก้นถุงสำหรับเริ่มต้นชีวิตคู่ค่ะ
งานแต่งงานขนาดกลาง: งานแต่งงานขนาดกลางนี้พบเห็นได้บ่อยที่สุด โดยมีแขกเข้าร่วมงานอยู่ที่ประมาณ 50-150 คน เหมาะสำหรับคู่แต่งงานที่มีงบ “ค่าใช้จ่ายงานแต่งงาน” พอดีๆ เชิญได้ทั้งแขกที่เป็นเพื่อนของเราและแขกของญาติผู้ใหญ่ตามความเหมาะสม รวมถึงสามารถมีตัวเลือกในการจัดงานแต่งได้เพิ่มขึ้นเนื่องจากงบประมาณมีมากขึ้นค่ะ
งานแต่งงานขนาดใหญ่: งานแต่งงานขนาดใหญ่จะมีแขกร่วมงานระดับ 200 คนขึ้นไป หรือมีการเชิญคนใหญ่โตเข้ามาร่วมงานเพื่อเป็นเกียรติแก่งาน เหมาะสำหรับคู่บ่าวสาวที่มีฐานะหรือทางบ้านสนับสนุน จึงสามารถเชิญแขกผู้มีเกียรติต่างๆ มาร่วมงานได้มาก จะได้สมเกียรติกับทั้งสองครอบครัว งานแต่งงานระดับใหญ่นี้จะมี “ค่าใช้จ่ายงานแต่งงาน” ที่สูง แต่ว่าคู่บ่าวสาวก็สามารถเลือกธีมงานแต่งและลักษณะงานให้หรูเลิศอลังการตามแบบที่ตนต้องการได้อย่างอิสระค่ะ
และก่อนที่คุณจะตัดสินใจเลือกขนาดของงานแต่ง ก็ให้ลองมาดูค่าใช้จ่ายงานแต่งงานในราคาเริ่มต้นของแต่ละขนาดดูก่อน ว่าแบบไหนเหมาะสมกับงบประมาณของคุณ มีรายละเอียดดังนี้ค่ะ
ค่าใช้จ่ายงานแต่งงานในส่วนนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ลุคของเจ้าบ่าวเจ้าสาวมีความสง่างามโดดเด่นที่สุดในงานของตัวเอง วิธีในการหาซื้อชุดแต่งงานก็จะแตกต่างกันไปตามแต่งบประมาณ ดังนี้ค่ะ
งานแต่งไซซ์มินิ: ถ้าคู่บ่าวสาวไม่ได้เคร่งเรื่องการมีชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวเป็นของตัวเองมากนัก จะเช่าชุดเอาก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะงานแต่งงานมีเพียงแค่ครั้งเดียว คุณก็จะใส่ชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวแค่ครั้งเดียวเท่านั้น บางคู่หากไม่เสียดาย ไม่อยากเก็บไว้ดูในภายหลัง การเช่าชุดก็ถือเป็นไอเดียที่เหมาะสมค่ะ โดยค่าใช้จ่ายงานแต่งงานส่วนนี้อาจจะเริ่มต้นที่หลักพันได้เลย คุณเองก็สามารถเช่าชุดบ่าวสาวจากร้าน wedding studio ได้ทันที ค่าเช่าจะอยู่ที่แค่ประมาณ 1,500-2,000 บาทต่อชุดเท่านั้น
และถ้าหากงานพิธีมีทั้งงานหมั้นและงานแต่ง หรือมีงานแต่ง 2 รอบเช่นงานไทย งานจีน หรืองานฝรั่ง ก็ให้คูณรอบงานแต่งหรืองานหมั้นที่ต้องมีเข้าไป เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมของชุดแต่งงานค่ะ
ส่วนค่าแต่งหน้า ถ้าหากเจ้าสาวมีฝีมือในการแต่งหน้าอยู่แล้ว ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องจ้างช่างแต่งหน้าเพื่อประหยัดเงิน แต่ถ้าหากอยากให้ลุคของเราดูสมบูรณ์ ไม่เสี่ยงที่จะแต่งหน้าพลาด การจ้างช่างแต่งหน้ามาช่วยก็ไม่ได้มีค่าใช้จ่ายที่แพงมากนัก จะอยู่ที่ประมาณ 1,000-2,000 บาทต่อคนค่ะ
ในส่วนของชุดเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาว ถ้าหากคุณอยากจะประหยัดค่าใช้จ่ายงานแต่งงานในส่วนนี้ ก็สามารถกำหนดแค่ธีมงานให้เพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวไปหาชุดที่มีสีหรือลักษณะตรงกับที่เราต้องการก็พอ จะได้ดูเป็นทีมเดียวกัน หรือหากอยากให้สีเหมือนกัน เจ้าบ่าวเจ้าสาวอาจจะไปซื้อผ้าแล้วแจกจ่ายไปให้เพื่อน เอาไปตัดชุดกันเองก็ได้ ซึ่งราคาเริ่มต้นก็อยู่แค่ประมาณหลาละ 200 บาทเท่านั้น
อีกทางเลือกหนึ่งก็คือ การหาซื้อเสื้อผ้าสำเร็จรูปคุณภาพดีราคาไม่แพงจากแหล่งเสื้อผ้าอย่างเช่นพาหุรัดหรือแพลทินัม ราคาชุดอยู่ที่ชุดละ 400 บาทขึ้นไปต่อชุดเท่านั้น ส่วนค่าใช้จ่ายรวมก็จะขึ้นอยู่กับว่าคุณมีเพื่อนบ่าวสาวมากเท่าไรค่ะ
งานแต่งขนาดกลาง: สำหรับค่าใช้จ่ายงานแต่งงานขนาดกลาง เมื่อบ่าวสาวมีงบประมาณเพิ่มขึ้น อาจเริ่มคิดตัดชุดเป็นของตัวเองมากกว่าเช่าชุดซึ่งอาจซ้ำกับคนอื่น โดยค่าตัดชุดแต่งงานจะเริ่มที่ประมาณ 5,000 บาทไปจนถึงหลักหมื่น แล้วแต่แบบที่เลือกเลยค่ะ สำหรับชุดเจ้าบ่าวนั้นไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ชุดเจ้าสาวจะมีรายละเอียดมากกว่าและราคาแพงกว่าชุดเจ้าบ่าว โดยเฉลี่ยค่าใช้จ่ายงานแต่งงานส่วนนี้จะอยู่ที่ประมาณ 20,000-30,000 บาทค่ะ
ในส่วนของชุดเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาว ถ้าหากต้องการตัดชุดให้กับเพื่อนด้วย ราคาจะตกอยู่ที่ประมาณ 1,500 บาทต่อคน สมมุติว่ามีเพื่อนบ่าวสาวรวมกันประมาณ 10 คน ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ก็จะอยู่ที่ประมาณ 15,000 บาทค่ะ
งานแต่งขนาดใหญ่: ถ้าหากเป็นงานแต่งขนาดใหญ่ที่ต้องดูเป็นทางการมาก ชุดบ่าวสาวอาจจะต้องพิถีพิถันขึ้นมาอีกระดับให้เข้ากับความหรูหราของงาน โดยอาจเป็นชุดแต่งงานจากห้องเสื้อหรือ designer หรูไปเลยถ้าหากมีงบประมาณ ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่หลักหมื่นบาทไปจนถึงหลายแสนได้เลยค่ะ
ชุดแต่งงานที่สาวๆ หลายคนใฝ่ฝันอยากได้ ก็คงจะไม่พ้นแบรนด์ดีไซเนอร์ Vera Wang ที่มี cutting เนี้ยบและมีรายละเอียดปักเย็บที่สวยงามไม่เหมือนใคร ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 7,000 เหรียญหรือเกือบ 300,000 บาท และชุดสูทของเจ้าบ่าวอาจจะราคาย่อมเยาลงมาอีกหน่อย โดยสูทคุณภาพดีเหมาะกับงานสำคัญจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 30,000-50,000 บาทค่ะ
ถ้าเป็นชุดเพื่อนบ่าวสาว ส่วนใหญ่จะนิยมเลือกผ้าคุณภาพดีมีราคาแพงแล้วส่งไปให้เพื่อนตัดชุดเอง ชุดที่ออกมาจะได้ไปในทิศทางเดียวกัน ค่าใช้จ่ายสำหรับค่าผ้าอาจจะอยู่ที่ประมาณ 20,000 บาทขึ้นไป ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับจำนวนเพื่อนบ่าวสาวด้วยค่ะ
ค่าใช้จ่ายงานแต่งงานในส่วนนี้ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญในงานแต่งที่จะทำให้ mood and tone ที่ดูโรแมนติกและสวยงามตามธีมของงานแต่ง เป็นการแสดงด้านที่อ่อนโยนและรักใคร่กันของคู่บ่าวสาวให้แขกที่มาร่วมงานได้เห็น ค่าใช้จ่ายจะขึ้นอยู่กับแต่ละขนาดงาน มีดังนี้ค่ะ
งานแต่งไซซ์มินิ: สำหรับงานแต่งไซซ์เล็ก อาจจะถ่ายรูปในสถานที่ที่อนุญาตให้ถ่ายฟรี เช่นสวนสาธารณะหรือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ โดยค่าจ้างถ่ายรูปราคาเบาๆ จะเริ่มต้นที่ตั้งแต่ 2,000 บาทขึ้นไป แต่อาจจะไม่รวมค่าเสื้อผ้า หน้า ผม ที่บ่าวสาวต้องเตรียมกันเอง โดยถ้าคู่บ่าวสาวไม่ติดอะไรมาก จะใส่ชุดธรรมดาหรือชุดชิกๆ ที่มีอยู่แล้ว รวมถึงถ้าหากสามารถแต่งหน้าและทําผมเอง ก็จะประหยัดเงินได้อีกค่ะ แต่ถ้ามีงบประมาณขึ้นหน่อย จะจ้างช่างแต่งหน้าหรือเช่าชุดมาใส่ก็ได้ค่ะ
และในส่วนนี้ บ่าวสาวอาจจะประหยัดกว่านี้ได้อีกถ้าหากพอมีเพื่อนๆ ที่ถ่ายรูปให้ได้และยินดีมาช่วย รวมถึงเพื่อนๆ ที่สามารถทำสไลด์ presentation ให้เราได้ หรืออาจจะเลือกรูปที่เคยถ่ายเล่นๆ ในอดีตด้วยกันมาใช้ด้วยก็ได้ค่ะ
งานแต่งขนาดกลาง: สำหรับงานขนาดกลาง บ่าวสามารถเลือกช่างภาพต่างๆ หรือเลือกแพ็กเกจพรีเวดดิ้งที่มีให้เลือกหลากหลายจากเวดดิ้งสตูดิโอทั่วไป จะทำให้งานแต่งงานของเราดูเป็นทางการมากขึ้น โดยแพ็กเกจสามารถครอบคลุมไปถึงการถ่ายรูปที่สตูดิโอและนอกสถานที่ ราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ค่าใช้จ่ายงานแต่งงานส่วนนี้ โดยรวมแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 8,000 ถึง 30,000 บาทค่ะ
โดยส่วนใหญ่ในแพ็กเกจ คุณจะได้ทั้งรูปและวิดีโอ รวมถึงอัลบั้มรูปถ่ายที่เก็บไว้ดูทีหลังได้ ทางที่ดี ถ้าหากอยากให้ค่าใช้จ่ายงานแต่งงานตรงนี้ออกมาคุ้มค่า ก่อนหน้างานแต่งของเราให้คุณลองไปเดินงาน wedding fair เพื่อหาแพ็กเกจถ่ายรูปพรีเวดดิ้งที่เหมาะกับตัวคุณและคู่รักมากที่สุด ก็จะทำให้งานแต่งออกมาคุ้มค่ามากขึ้นค่ะ
งานแต่งขนาดใหญ่: ถ้าคุณจัดงานแต่งงานขนาดใหญ่ที่เป็นทางการและหรูหราไปเลย รูปถ่ายพรีเวดดิ้งก็ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้งานออกมาดูดี บางคู่อาจจะทุ่มเทงบประมาณให้กับการถ่ายรูปนี้ได้ไม่อั้นตามความพอใจ จะจ้างช่างภาพ portrait ดีๆ มีฝีมือชื่อดัง หรือจองตั๋วเครื่องบินไปถ่ายแบบสุดพิเศษที่ต่างประเทศก็สามารถทำได้ โดยค่าช่างภาพอาจจะอยู่ที่หลักหมื่นต่อวันยังไม่รวมค่าเดินทาง ทำให้ค่าใช้จ่ายงานแต่งงานในส่วนนี้อาจจะอยู่รวมกันที่หลากหลายหมื่นหรือเกิน 100,000 บาทก็ได้ค่ะ
ค่าใช้จ่ายงานแต่งงานในส่วนของสถานที่ ถือเป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่สามารถบ่งบอกลักษณะของงานเราได้ว่าจะมีความหรูหราเพียงไหน ถ้าจัดในสถานที่นอกบ้าน ก็มักจะมีแพ็กเกจจัดงานแต่งงานที่รวมไปถึงค่าอาหารเครื่องดื่มและค่าประดับดอกไม้ต่างๆ คุณสามารถเลือกสถานที่ได้ตามแต่งบประมาณและหน้าตาของงานคุณ ดังนี้ค่ะ
งานแต่งไซซ์มินิ: คุณสามารถตัดค่าใช้จ่ายงานแต่งงานส่วนนี้ออกไปได้ถ้าหากเลือกสถานที่เป็นที่บ้านของคุณเอง อีกไอเดียหนึ่งที่ทำให้ค่าใช้จ่ายด้านสถานที่ลดลงได้ก็คือ การจองเป็นหอประชุมขนาดใหญ่ของสถานที่ราชการ ซึ่งค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่เพียงหลักพันหรือหลักหมื่นต้นๆ เท่านั้น ตีเป็นตัวเลขจะอยู่ที่ประมาณ 5,000 ถึง 20,000 บาท แต่ถ้าหากสถานที่จัดงานอยู่ในต่างจังหวัด บ่าวสาวส่วนใหญ่ก็มักจะจัดที่บ้านหรือที่หอประชุมโรงเรียนต่างๆ ก็ได้ค่ะ
งานแต่งขนาดกลาง: งานแต่งงานขนาดกลางขึ้นไปมักจะเริ่มจัดงานกันตามโรงแรมที่มีห้อง ballroom ขนาดใหญ่ สามารถจุแขกได้ตามจำนวนที่ต้องการ เมื่อไปติดต่อที่โรงแรมก็จะมีแพ็กเกจจัดงานแต่งงานหรือราคาเช่าห้องให้อยู่แล้ว โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 50,000 บาทไปจนถึง 200,000 บาท และอาจจะมีการจัดเตรียมตกแต่งงานต่างๆ ให้ด้วย เช่นการประดับดอกไม้ การตั้งฉากถ่ายรูป การจัดโต๊ะต้อนรับต่างๆ
แต่ถ้าอยากจัดงานขนาดกลางที่ดูเป็นกันเองมากกว่า ก็มีหอประชุมสวยๆ ที่ราคาดีและเป็นที่นิยมในการจัดงานแต่งงานกัน เช่นหอประชุมกองทัพต่างๆ หรือสมาคมมหาวิทยาลัย เป็นต้น โดยค่าใช้จ่ายจะเริ่มที่ 30,000 ถึง 70,000 บาทขึ้นอยู่กับขนาดห้องค่ะ
งานแต่งขนาดใหญ่: คุณสามารถเลือกโรงแรมหรือสถานที่จัดงานระดับพรีเมียมตามต้องการได้เลย เช่นโรงแรมระดับ 5 ดาวต่างๆ โดยค่าเช่าสถานที่อาจมีราคามากกว่า 200,000 บาทไปจนถึง 600,000 บาท หรือขึ้นหลักล้านเลยก็มีค่ะ นอกจากนี้ โรงแรมหรูหลายแห่งยังมีแพ็กเกจงานแต่งงานที่รวมค่าอาหารต่อหัวเริ่มต้นที่หัวละ 1,000 บาทขึ้นไป หรือโต๊ะละ 3,000 บาทขึ้นไป โดยค่าใช้จ่ายจะขึ้นอยู่กับจำนวนแขกที่มาร่วมงานด้วยค่ะ
ค่าใช้จ่ายงานแต่งงานในส่วนนี้ถือว่ามีสัดส่วนไม่สูงนักเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ แต่ก็สามารถปรับแต่งงบประมาณได้ตามขนาดงานที่เราต้องการค่ะ
งานแต่งไซซ์มินิ: ถ้าเป็นการ์ดแต่งงานแบบเรียบง่ายไม่ได้มีลวดลายหรืองานพิมพ์ที่สลับซับซ้อน ราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 10 บาทต่อใบเท่านั้น สามารถสั่งพิมพ์ได้ที่โรงพิมพ์ต่างๆ ทั่วไปที่มีบริการออกแบบให้เสร็จสรรพในตัว หรือถ้าหากคุณเชิญแขกจำนวนไม่มาก มีแค่เพื่อนสนิทและญาติผู้ใหญ่ อาจใช้วิธีการเชิญแบบส่วนตัว หรือส่งการ์ดทางออนไลน์ก็ได้ ทำให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไปได้ค่ะ
ส่วนของชำร่วยสามารถเลือกได้จากแหล่งขายส่งต่างๆ ราคาตกอยู่ที่ชิ้นละ 15 บาทขึ้นไป โดยสามารถซื้อมาแพ็กหรือใส่ห่อเอง ก็จะประหยัดเงินได้มากขึ้นค่ะ
งานแต่งขนาดกลาง: สามารถซื้อได้ทั้งการ์ดและซองที่อาจจะมีงานพิมพ์ซับซ้อนขึ้น ราคาตกอยู่ที่ 14 ถึง 20 บาทต่อ 1 ชุด ซึ่งสามารถเลือกได้จากที่ wedding studio ที่มีแพ็กเกจมาให้ หรือสั่งออกแบบตามโรงพิมพ์ต่างๆ เองเลยก็ได้ค่ะ
งานแต่งขนาดใหญ่: ถ้าเป็นงานแต่งที่หรูหรา งบในการออกแบบการแต่งงานจะเป็นเท่าไรก็ได้ สามารถเลือกใช้การ์ดแต่งงานที่ออกแบบพิเศษ มีงานพิมพ์ซับซ้อน หรือมีลูกเล่นมากมาย ค่าการ์ดอาจมีราคามากถึง 40 ถึง 60 บาท แต่คุณก็จะได้การ์ดที่ถูกใจและมีความ exclusive สำหรับคู่แต่งงานมากที่สุดค่ะ
ส่วนเรื่องของชำร่วย ถ้าหากในงานมีแขกผู้ใหญ่จำนวนมาก ทำให้เราอาจต้องเลือกของที่ดูมีราคาและมีค่าต่อชิ้น ราคาอาจเริ่มที่หลักสิบปลายๆ ตั้งแต่ 80-90 บาทไปจนถึงหลักร้อยได้เลย เช่นชุดช้อนส้อม หรือของที่ระลึกที่ทำขึ้นมาเพื่องานนี้เท่านั้น ไม่ซ้ำกับงานอื่น เช่นแก้วน้ำสกรีนลาย หรือเทียนหอมที่มีสัญลักษณ์ของบ่าวสาวติดอยู่ค่ะ
อาหารถือเป็นค่าใช้จ่ายงานแต่งงานที่มีส่วนสำคัญทำให้แขกผู้มาร่วมงานมีความรื่นรมย์และอิ่มท้องก่อนกลับบ้าน ค่าใช้จ่ายงานแต่งงานในส่วนนี้ก็มีสัดส่วนราคาที่สูงเช่นกัน สามารถเลือกได้ทั้งแพ็กเกจเมนูอาหารที่พ่วงมากับค่าสถานที่ หรือสามารถจ้าง Catering ข้างนอกให้จัดอาหารให้ก็ได้ค่ะ
งานแต่งไซซ์มินิ: เช่นเดียวกับค่าใช้จ่ายงานแต่งงานอื่นๆ ก่อนหน้านี้ ถ้าหากคุณจัดงานแต่งงานที่บ้านแบบเรียบง่าย เราอาจจ้างให้แม่ครัวมาทำอาหารให้ ทำให้สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ทุกส่วน หรือถ้าหากเป็นญาติๆ มาช่วยกันทำอาหารหรือทำกันมาคนละนิดละหน่อย อาจจะไม่มีค่าใช้จ่ายเลยหรืออยู่ที่ไม่เกิน 1,000 บาท ค่าวัตถุดิบต่างๆ ก็จะขึ้นอยู่กับจำนวนแขกที่มาร่วมงานเป็นหลักว่ามีมากเท่าไหน
ค่าใช้จ่ายโดยรวมจะตกอยู่ที่ 10,000 บาทไปจนถึง 30,000 บาท และสามารถเลือกเมนูได้ตามชอบใจ อาจจะเป็นเมนูมงคลที่มีความหมายที่ดีต่อวันแต่งงานก็ได้ค่ะ
งานแต่งขนาดกลาง: สามารถเลือกบริการ food catering หรือซื้อแพ็กเกจงานแต่งที่รวมค่าจัดอาหารไว้แล้วก็ได้ ถ้าหากเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ก็จะคิดค่าอาหารเป็นรายหัว เริ่มต้นที่หัวละ 500-600 บาทไปจนถึง 1,000 บาท ถ้าหากคิดเป็นโต๊ะ จะอยู่ที่ประมาณ 2,000 บาทเป็นต้นไปค่ะ
งานแต่งขนาดใหญ่: หากเป็นงานแต่งขนาดใหญ่ ค่าใช้จ่ายงานแต่งงานในส่วนของอาหารก็จะแพงตาม แต่อาหารก็จะมีคุณภาพเลิศ ส่วนใหญ่มักจะให้โรงแรมที่ใช้จัดงานเป็นผู้จัดอาหารมาให้ ถ้าหากเป็นงานค็อกเทล ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นจะอยู่ที่หัวละ 1,000 บาทไปจนถึง 2,500 บาท แต่ถ้าเป็นโต๊ะ จะอยู่ที่โต๊ะละ 10,000 บาทเป็นต้นไปค่ะ
แหวนหมั้นหรือแหวนแต่งงานก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของค่าใช้จ่ายงานแต่งงานที่มีมูลค่าสูงเช่นกัน การซื้อแหวนหมั้นหรือแหวนแต่งงานนั้นก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดงานแต่งสักเท่าไร แต่จะขึ้นอยู่กับการตั้งงบประมาณในใจที่คุณสามารถยอมรับได้ โดยให้คุณดูปัจจัยแวดล้อมในชีวิตและการเงินต่างๆ เพื่อคำนวณความสามารถในการในการจ่ายเงินและคืนทุนให้กับแหวนได้นั่นเองค่ะ ยิ่งเราคืนทุนแหวนได้เร็วเท่าไรก็ยิ่งดี และควรคืนทุนให้ได้ภายใน 1 ปีค่ะ
โดยราคาแหวนเพชรจะขึ้นอยู่กับแบบแหวนเพชร ขนาดกะรัต และคุณภาพของเพชร โดยสามารถอ่านเพิ่มเติมจากบทความ วิธีเลือกซื้อแหวนแต่งงาน
เมื่อรู้ค่าใช้จ่ายต่างๆ ของงานแต่งแต่ละขนาดแล้ว ก็ให้ลองมองกลับมาดูที่คู่ของเราว่ามีงบประมาณเท่าไหนถึงจะจัดงานแต่งที่คุ้มค่ากับเรามากที่สุดได้ ค่าใช้จ่ายในงานแต่งงานทั้งหมดจะขอสรุปคร่าวๆ ตามตารางด้านล่างนี้ค่ะ
รายการค่าใช้จ่าย | ขนาดเล็ก 10-50 คน |
ขนาดกลาง 50-200 คน |
ขนาดใหญ่ 200+ |
---|---|---|---|
1. เสื้อผ้า หน้า ผม | |||
– ชุดบ่าวสาว | 3,000-4,000 | 10,000-20,000 | 50,000-350,000 |
– ชุดเพื่อนบ่าวสาว | 4000-6,000 | 15,000-20,000 | 20,000-30,000 |
– ค่าแต่งหน้า ทำผม | 2,000-4,000 | 3,000-5,000 | 5,000-10,000 |
2. ค่าถ่ายรูป | |||
– ถ่าย Pre-wedding | 2,000-3,000 | 8,000-30,000 | 30,000-50,000 |
– ค่าเดินทาง | – | – | 10,000-30,000 |
3. ค่าสถานที่ | 5,000-20,000 | 50,000-200,000 | 200,000-600,000 |
4. ของจิปาถะ | |||
– การ์ดแต่งงาน | 100-500 | 600-4,000 | 8,000-12,000 |
– ของชำร่วย | 150-750 | 1,000-8,000 | 16,000-18,000 |
5. อาหาร | 10,000-30,000 | 25,000-40,000 | 200,000-400,000 |
รวมทั้งหมด | 26,250-68,250 | 112,600-316,200 | 539,000-1,500,000 |
อย่างไรก็ดี ข้อมูลด้านบนนี้เป็นข้อมูลคร่าวๆ ไว้สำหรับประกอบการตัดสินใจเลือกแนวทางการจัดงานแต่งงานเท่านั้น การกำหนดงบค่าใช้จ่ายงานแต่งงานจริงๆ จะขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นอีกหลายปัจจัย โดยคุณและคู่รักสามารถเน้นบางสิ่งบางอย่างในงานต่างๆ ให้เด่นและมีราคาแพงกว่าอย่างอื่นได้ โดยที่ทุกอย่างไม่จำเป็นต้องแพงเท่าๆ กันหมดค่ะ
การวางแผนค่าใช้จ่ายงานแต่งงาน ถือเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการเริ่มต้นชีวิตคู่ และการซื้อแหวนแต่งงานหรือแหวนหมั้นก็เป็นหนึ่งในส่วนประกอบนั้น Above Diamond ภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมช่วยให้คู่รักหลายๆ คู่ค้นพบแหวนหมั้นและแหวนแต่งงานที่เปี่ยมความหมาย ตรงใจคนทั้งคู่ รวมถึงมีคุณภาพคุ้มราคา และถ้าหากคุณและคู่รักอยากจะเข้ามาปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องการเลือกแหวนหมั้นหรือแหวนแต่งงาน ก็สามารถติดต่อ Above Diamond ได้ตอนนี้เลยนะคะ
พูดคุยกับนักอัญมณีอโบฟไดมอนด์
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของท่าน กรุณาอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว