
อัพเดทล่าสุด 30/10/2022 โดย Above Diamond
อัพเดทล่าสุด 08/03/2024 โดย Above Diamond
การเลือกแบบแหวนเพชร หรือแบบแหวนแต่งงาน เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่คุณควรพิจารณาก่อนตัดสินใจสั่งทำแหวนเพชรสักวง
คุณเคยรู้สึกลำบากใจไหม? เวลาต้องเลือกแหวนแต่งงานที่มีตัวเลือกมากมาย ทั้งในเว็บ ในนิตยสาร หรือในร้าน ที่มีเยอะเสียจนทำให้คุณเลือกไม่ถูก เหมือนการฝ่าดงเข้าไปซื้อเสื้อผ้าในมหกรรมเซลล์อย่างไรอย่างนั้น
และที่ยิ่งไปกว่านั้น…
คุณคงจะเคยได้ยินคำศัพท์แปลกๆ เกี่ยวกับเทคนิคการฝังเพชร สำหรับแบบแหวนเพชรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ฝังหนามเตย ฝังจิกไข่ปลา ฝังสอด ฯลฯ ซึ่งอาจทำให้คุณยิ่งงงเข้าไปใหญ่
จึงตั้งใจเขียนบทความนี้ขึ้นมา เพื่ออธิบายให้คุณเข้าใจง่ายๆ ว่าแบบแหวนเพชรแต่ละแบบ มีหน้าตาเป็นอย่างไร และมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร
โดยแบบแหวนเพชรทั้งหมดที่คุณเคยพบเจอมานั้น สามารถจำแนกได้อยู่ภายใน 15 ประเภทที่เราจะกล่าวถึงในวันนี้ ซึ่งเราได้ทำการรวมทั้งเทคนิคการฝังเพชร และแบบตัวเรือนยอดนิยมไว้ในบทความนี้ทั้งหมด คุณจึงไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปหาดูแบบแหวนเพชรที่ไหนอีก เพราะเราได้ทำการสรุปให้คุณเรียบร้อยแล้ว
และเมื่อคุณเลือก แบบแหวนเพชร หรือแบบแหวนแต่งงานที่ถูกใจได้แล้ว สามารถติดต่อเรา เพื่อให้เราช่วยเลือกเพชรเบลเยียมเม็ดงามสำหรับคุณได้
เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า…
แบบแหวนเพชร ที่คุณจะพบเจอบ่อยที่สุด และถือเป็นแบบคลาสสิกตลอดกาลคือ แบบแหวนเพชรเม็ดเดี่ยว ที่ฝังแบบหนามเตย เหมาะสำหรับคู่รักที่กำลังมองหาแบบแหวนแต่งงาน
หนามเตย คือ ก้านที่ต่ออยู่กับกระเปาะที่คอยประคองเพชรหรืออัญมณีไว้ โดยส่วนปลายของหนามเตยแต่ละจุดจะมีลักษณะโค้งเข้าหากันเพื่อยึดเพชรเอาไว้
หนามเตยมีหลายรูปแบบ เช่น กลม แหลม แบน หรือ ตัว V (นิยมใช้กับเพชรทรง Princess Cut Diamond)
ตัวเรือนแหวนที่ฝังเพชรแบบหนามเตย ที่คุณจะเห็นได้บ่อยๆ คือแบบ 4 หรือ 6 ก้าน โดยแบบ 4 ก้านคือแบบที่คลาสสิกและฮิตที่สุด ในขณะที่แบบ 6 ก้านจะให้ความทนทานมากกว่า
ตัวเรือนแหวนที่ฝังแบบนี้จะทำให้เพชรดูใหญ่โต เพราะมีส่วนโลหะมาหุ้มน้อยที่สุด จึงสามารถมองเห็นเพชรได้จากทุกมุม ทำให้เพชรดูมีประกายแวววาวอย่างชัดเจน
คนส่วนใหญ่ที่ซื้อแหวนเพชร 1 กะรัต มักจะเลือกสั่งทำตัวเรือนแบบนี้
แหวนเพชรฝังหุ้ม เป็นแบบแหวนเพชรที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับสอง เพราะเป็นลุคที่ดู Modern และเหมาะกับคนที่มี Active Lifestyle
การฝังแบบนี้จะต่างจากแบบหนามเตย เพราะแทนที่จะเกี่ยวเพชรไว้เฉยๆ การฝังหุ้มจะล้อมตัวเพชรทั้งเม็ดด้วยส่วนโลหะบางๆ เป็นทรงกลม ซึ่งจะทำให้เพชรยึดแน่นอยู่กับที่ เหมือนการใส่เคสมือถือแบบหนาๆ
การฝังหุ้ม อาจจะล้อมรอบหรือล้อมแค่บางส่วนของเพชรก็ได้ โดยถ้าหากเป็นการล้อมบางส่วนก็จะเปิดด้านข้างของเพชรให้เห็น
แหวนที่ฝังหุ้มจึงเป็นตัวเรือนที่เหมาะสมสำหรับคนที่ต้องทำงานด้วยมือเยอะหน่อย เพราะจะได้ไม่ต้องกังวลเวลาเพชรไปเกี่ยวกับสิ่งของ
การฝังหนีบ คือการใช้แรงดันจากโลหะทั้งสอนด้านของตัวแหวนในการหนีบเพชรเข้าไว้ จึงทำให้ดูเหมือนเพชรถูกยึดไว้กับที่ด้วยตัวเรือนเฉยๆ
การฝังแบบนี้มักจะใช้ Laser เพื่อหาขนาดที่แม่นยำของเพชร แล้วช่างฝังชำนาญการจะทำการตัดร่องเล็กๆ บนตัวเรือน เพื่อให้เพชรหรืออัญมณีล้ำค่าเกาะ เปรียบเสมือนลอยอยู่ ด้วยแรงดันจากตัวเรือนที่ค่อยผลักเพชรจากทั้งสองฝั่งให้อยู่กับที่
ส่วนการฝังหนีบ โดยการตั้งใจออกแบบมาให้ดูโค้งไปตามส่วนของเพชร เรียกว่าตัวเรือนฝังหนีบออกแบบฝังหุ้ม (Tension-Style Bezel Setting) ซึ่งจะผลิตยากกว่าตัวเรือนที่หนีบแบบตรงๆ เพราะต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญสูง แต่ตัวเรือนแบบนี้มีข้อดีตรงที่สามารถปกป้องเพชรได้รอบด้านกว่า และจะหนีบเพชรให้อยู่กับที่ได้ดีกว่า
แบบแหวนแต่งงานนี้ได้รับความนิยมมาก ในหมู่คนที่ชอบแหวนเพชรฝังหนีบ เพราะลดข้อเสียของการฝังหนีบแบบปกติได้ โดยการประยุกต์ใช้การฝังหุ้มเม็ดเพชรแทน
การฝังสอด คือวิธีในปลอดภัยในการฝังเพชรเม็ดเล็ก โดยที่เพชรจะเรียงกันเป็นแนวยาว ไม่มีเนื้อโลหะมาขวางกั้นระหว่างเพชร
การฝังสอด มักจะนิยมใช้กับแหวนเพชรแถว เพื่อเรียงเพชรให้ทั่วแหวนเป็นวงกลมรอบนิ้ว โดยได้รับความนิยมมากในกลุ่มคนรุ่นใหม่วัยทำงาน เพราะสามารถสวมใส่ได้ง่าย เหมาะกับชีวิตประจำวันที่เร่งรีบ
เนื่องจากแหวนเพชรฝังสอดไม่มีการใช้หนามเตย จึงเหมาะกับคนที่ชอบความปลอดภัย และต้องการความสะดวกสบายในการสวมใส่
การฝังแบบจิกไข่ปลา คำว่า Pavé มีที่มาจากฝรั่งเศส ซึ่งก็คือ Pave ในภาษาอังกฤษ เมื่อแปลเป็นภาษาไทย หมายถึง การปูทาง หรือในที่นี้คือการปูเพชรนั่นเอง
การฝังแบบนี้ เหมาะกับการนำเพชรเม็ดเล็กๆ มาวางเรียงกันเป็นแพ แล้วยึดติดด้วยก้อนโลหะกลมๆ เล็กๆ เหมือนไข่ปลา การฝังแบบนี้จะทำให้เพชรดูระยิบระยับ มีประกายมากมากขึ้นโดยเฉพาะถ้าอยู่ในตัวเรือนทองขาว
เราแนะนำให้คุณเลือกไซซ์แหวนที่ถูกต้อง ให้มั่นใจก่อนแล้วค่อยสั่งทำแหวนเพชร เพื่อป้องกันไม่ให้คุณต้องลำบากแก้ขนาดแหวนในภายหลัง
แบบแหวนเพชรล้อม หมายถึงการนำเพชรเม็ดใหญ่มาล้อมรอบด้วยเพชรเม็ดเล็ก ตามรูปทรงของเพชรเม็ดกลาง ซึ่งจะทำให้เพชรเม็ดกลางดูใหญ่ขึ้น
แหวนแบบนี้ ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการโชว์เพชรแบบหมดหน้าตัก อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประกายไฟของแหวนเพชรได้ดีอีกด้วย
แหวนเพชรล้อม เหมาะสำหรับคนที่ต้องการประหยัดเงิน เพราะแทนที่จะต้องซื้อเพชรเม็ดใหญ่ ก็สามารถลดงบประมาณมาเป็นเพชรเม็ดเล็กๆ แทน แต่ยังคงได้ภาพลักษณ์ที่ดูดีไม่แพ้กัน
นอกจากนี้ ถ้าคุณเลือกใช้เพชรสีแฟนซี หรืออัญมณีอื่นๆ เป็นเม็ดกลาง และล้อมด้วยเพชรขาว ก็เป็นการเล่นสีให้ตัดกันได้อย่างสวยงาม
แหวนเพชรล้อม นิยมนำเพชรมาฝังแบบจิกไข่ปลาด้านข้างตัวเรือนเพื่อเพิ่มความสวยงาม แต่ถึงจะไม่มีเพชรมาตกแต่งรอบๆ ก็ยังดูดีแบบเรียบหรูได้อย่างมีระดับ
แหวนเพชรแบบชู นับเป็นแบบที่ดูภูมิฐานและคลาสสิกที่สุด ในบรรดาแบบแหวนแต่งงานทั้งหมด เพราะมีลักษณะส่วนฐานที่ชูเพชรคล้ายๆ กับซุ้มประตูของโบสถ์คริสต์โบราณ
ส่วนวิธีการฝัง อาจจะฝังแบบหนามเตย แบบล้อม หรือแบบหนีบก็ได้ เพราะลักษณะของแหวนแบบชูไม่ได้อยู่ที่เทคนิคการฝัง แต่อยู่ที่วิธีการตกแต่งในส่วนโลหะที่ชูเพชรขึ้นมาต่างหาก
การที่ตัวเรือนชูเพชรขึ้นมา จะช่วยเพิ่มความสูงของเพชรซึ่งทำให้เพชรเม็ดหลักดูใหญ่ยิ่งขึ้น และถือเป็นวิธีที่ดีสำหรับคนที่งบน้อยต้องการประหยัด เพราะเน้นเล่นลายส่วนตัวเรือน มากกว่าการโชว์จำนวนเพชร
การฝังเพชรโดยขั้นด้วยแถบโลหะจากตัวเรือน ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดูแปลกตาในการฝังเพชร
การฝังแบบบาร์จะคล้ายๆ กับการฝังสอด แต่จะแตกต่างตรงที่การฝังสอดจะไม่เว้นที่ว่างระหว่างเพชร เพชรจึงแนบชิดติดกันหมด ขณะที่การฝังแบบบาร์จะเว้นที่ว่างไว้ เพื่อสอดชิ้นโลหะให้เพชรยึดอยู่กับที่
ตัวเรือนแบบนี้สามารถช่วยเน้นเพชรแต่ละเม็ดให้ดูโดดเด่นได้ เหมาะกับการทำแบบแหวนแต่งงาน Wedding Band หรือ แหวนซ้อนแบบ Stackable Ring ทีละหลายๆ วง
การฝังเหยียบเป็นเทคนิคที่ต้องใช้การเหยียบสมชื่อ เพราะถึงแม้ว่าจะดูเผินๆ แล้วจะคล้ายกับแบบฝังหุ้ม แต่ที่จริงเป็นการเจาะรูตรงส่วนโลหะของแหวนลงไป แล้วช่างจะทำการกดเพชรเข้าไปให้อยู่กับที่
การฝังอัญมณีแบบฝังเหยียบจะไม่เหมาะกับพลอยหรืออัญมณี ที่มีเนื้ออ่อนกว่าเพชร เพราะอาจทำให้เนื้อพลอยแตกได้ในระหว่างการกดพลอยเข้าไป
แหวนเพชรฝังเหยียบเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่ได้รับความนิยมเมื่อพูดถึงแบบแหวนเพชรผู้ชาย เพราะการที่เพชรได้รับการฝังเข้าไปให้อยู่กับที่ ทำให้โอกาสหลุดหายยากมาก
อ่านเพิ่มเติม: 3 เคล็ดลับเลือกซื้อ แหวนแต่งงานผู้ชาย เซอร์ไพรส์คนพิเศษ!
แบบแหวนเพชรเรียง และ แบบแหวนเพชรแถว ไม่ว่าจะเป็นเพชร 3…4…5…6…7 เม็ด ล้วนแต่เป็นแบบที่มีความอเนกประสงค์มาก จึงมักจะใช้เป็นแบบแหวนหมั้น แหวนแต่งงาน แหวนครบรอบ หรือโอกาสพิเศษอื่นๆ
ส่วนการเลือกจำนวนเพชร ขึ้นอยู่กับความเชื่อและความพึงพอใจของตัวผู้สวมใส่เอง
เช่น บางคนเชื่อว่าแหวนเพชรเรียง 3 เม็ด แสดงความหมายถึง อดีต ปัจจุบัน และอนาคตที่มีความสุขของคู่รัก
ถ้าหากเป็นคนจีนอาจจะชอบแหวนเพชรเรียง 5 เม็ด เพราะเชื่อว่าจะทำให้มีความสำเร็จ จึงเหมาะกับการแสดงความยินดีในหน้าที่การงาน
บางคนที่ชอบเพชรเยอะหน่อยก็จะเลือกเป็นแบบแหวนเพชรเรียง 7 เม็ด เพราะเลข 7 แสดงถึงโชคดี (Lucky Seven) ตามความเชื่อของชาวตะวันตก
แบบแหวนเพชรทรงวินเทจ มีหลากหลายสไตล์ โดยเป็นงานที่ผลิตขึ้นให้ดูคล้ายกับแหวนเพชรในสมัยก่อน ย้อนไปตั้งแต่ยุคที่ศิลปะเฟื่องฟู อาทิ Art Deco, Edwardian หรือ Victorian ซึ่งมักจะเน้นไปที่รายละเอียดของลวดลายตัวเรือนเป็นหลัก
ซึ่งถ้าพูดถึงแหวนเพชรทรงวินเทจในบ้านเรา ก็มีความโดดเด่นไม่น้อยหน้าเมืองนอก โดยเฉพาะแหวนทองทรงดอกไม้ต่างๆ เช่น แหวนดอกพิกุล หรือถ้าเป็นแหวนที่ขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ ให้ผลดีต่อผู้สวมใส่โดยตรงก็คือ แหวนนพเก้า
แบบแหวนเพชรกลุ่ม คือ การนำเพชรมาฝังรวมกันเป็นกลุ่มก้อน ให้ดูราวกับเป็นเพชรเม็ดใหญ่เม็ดเดียว ซึ่งจริงๆ แล้วอาจประกอบด้วยเพชรกลางเม็ดใหญ่ หรือเป็นเพชรเม็ดเล็กทั้งหมดก็ได้
แหวนประเภทนี้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสวมใส่เพชรเม็ดใหญ่แต่มีงบจำกัด เพราะการลงทุนซื้อเพชรเม็ดใหญ่เม็ดเดียว จะมีมูลค่ามากกว่าการซื้อเพชรเม็ดเล็กๆ มารวมกันหลายเท่าตัว เมื่อเทียบกับเพชรคุณภาพเดียวกัน
แหวนเพชรครึ่งวง หรือ แหวนเพชรรอบวง เป็นแหวนที่คนนิยมซื้อเพื่อสวมใส่เป็นแบบแหวนเพชรแต่งงานผู้หญิง หรือในโอกาสพิเศษต่างๆ เช่น วันครบรอบ วันเกิด หรือ วันวาเลนไทน์
ชาวต่างประเทศ มักจะเรียกแหวนชนิดนี้ว่า Eternity Band เพราะการที่มีเพชรล้อมอยู่รอบตัวเรือนเป็นวงกลม ก็เปรียบเสมือนกับความรักที่เดินทางไปเรื่อยๆ แบบไม่มีวันสิ้นสุดแบบอมตะนิรันดร์กาล
แหวนเพชรแบบก้าน เป็นแบบแหวนเพชรที่เล่นดีไซน์ส่วนก้านของเพชร ให้แยกออกเป็นสองส่วนแล้ววิ่งมาประจบกัน โดยที่ก้านของแหวนแบบนี้มักจะใช้เพชรกลมในการประดับ แต่ถ้าใส่เพชรแฟนซีก็จะทำให้ดูแตกต่างยิ่งขึ้น
แหวนเพชรทรงนี้ เหมาะกับผู้ที่มีนิ้วมือเล็กเรียว เพราะจะทำให้นิ้วของผู้สวมใส่ดูอวบอิ่มและสมส่วนมากขึ้น
การเลือกแบบแหวนเพชรที่ดี ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ที่ต้องตัดสินใจให้ได้เป็นอันดับแรก เพราะจะเป็นสิ่งที่กำหนดดีไซน์และการเลือกเพชรทั้งหมด
ส่วนการที่คุณจะเลือกแบบไหนสไตล์อะไรก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัว หรือ Lifestyle ของคุณล้วนๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครบอกได้นอกจากตัวคุณเอง
แหวนเพชรแบบหนึ่ง อาจจะเหมาะกับคนที่ต้องทำงานด้วยมือเป็นหลัก ในขณะที่แหวนเพชรอีกแบบ อาจจะเหมาะกับคนที่ต้องออกงานสังคมบ่อย
อีกข้อที่คุณควรพิจารณา คือ เรื่องการทำความสะอาดแหวนเพชร เพื่อให้แหวนเพชรของคุณดูมีสง่าราศีตลอดเวลา เพราะไม่ว่าคุณจะเลือกแหวนเพชรแบบไหน เมื่อใส่ไปเรื่อยๆ ก็ต้องมีการทำความสะอาดอยู่ดี ขึ้นอยู่กับว่าบางแบบทำความสะอาดยากง่ายเท่านั้นเอง
เมื่อคุณสามารถเลือกแบบแหวนเพชร หรือแบบแหวนแต่งงานที่ถูกใจได้แล้ว คุณก็ควรหาเพชรเม็ดงามมาประดับเพื่อให้เข้ากับตัวแหวนได้ดีที่สุด ซึ่งถ้าคุณต้องการให้เราช่วยคัดสรรเพชรในฝันเม็ดนั้นให้ สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญของเรา เพื่อช่วยเลือกเพชรน้ำงาม ในราคาที่เหมาะสมได้
อ่านเพิ่มเติม: 3 วิธีดูเพชรแท้ เพชรเทียม แบบชัวร์ๆ ให้คุณดูเพชรได้ทุกแบบ
พูดคุยกับนักอัญมณีอโบฟไดมอนด์
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของท่าน กรุณาอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว