
อัพเดทล่าสุด 10/07/2022 โดย Above Diamond
อัพเดทล่าสุด 30/03/2022 โดย Wit Sudjaiampun
คุณกำลังสับสนระหว่าง ทองคำขาว ทองขาว กับแพลตตินั่ม อยู่หรือเปล่า?
เมื่อพูดถึง ทองคำขาว ทองขาว แพลตตินั่ม ทอง 90% ทอง 18K ฯลฯ อาจทำให้ใครหลายคนเกิดความสับสน ว่าอันไหนดีกว่ากัน?
นอกจากนี้ ยังมีหลายคนที่กำลังเข้าใจผิดคิดว่า ทองคำขาว กับ แพลตตินั่ม หรือที่หลายคนนิยมเรียกกันว่า ทองขาว เป็นวัสดุเดียวกัน เพราะดูจากภายนอกมีสีขาวๆเงินๆเหมือนกัน
แต่ไม่เหมือนกัน…
เพราะถึงแม้ว่าทั้งสองวัสดุจะมีรูปลักษณ์ภายนอกคล้ายกันมาก แต่ความจริงแล้วมีส่วนประกอบต่างกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งรวมไปถึงความแตกต่างด้านราคาที่แตกต่างกันพอสมควร
ยิ่งไปกว่านั้น ไปช่วงหลังๆมักจะได้ยินหลายคนพูดถึงวัสดุพิงค์โกลด์ หรือโรสโกลด์อยู่บ่อยๆ แล้วสรุปว่ามันทำมาจากอะไร? ต่างจากทองคำปกติอย่างไร?
ในบทความนี้ ผมจะมาไขทุกข้อข้องใจ ให้คุณทราบถึงความแตกต่างของวัสดุแต่ละชนิด รวมถึงอธิบายข้อดี-ข้อเสียของทองคำแต่ละแบบ เพื่อให้คุณเข้าใจอย่างละเอียด และสามารถนำไปประกอบการตัดสินใจในการซื้อเครื่องประดับเพชรในอนาคตได้ครับ
ผมจะเริ่มอธิบายให้คุณเข้าใจ เกี่ยวกับเรื่องเปอร์เซ็นต์ทองกันก่อน เพราะดูเหมือนว่าจะมีหลายท่านที่ไม่เข้าใจ ถึงขนาดที่บางท่านคิดว่าทอง K เป็นของปลอม ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่เลยนะครับ
K ย่อมาจากคำว่า Karat ซึ่งเป็นหน่วยสากลในการวัดเปอร์เซ็นต์ทอง ต่างจาก Carat ซึ่งเป็นหน่วยสำหรับใช้วัดน้ำหนักกะรัตของเพชรพลอย โดยทองคำแต่ละ K จะมีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามเปอร์เซ็นต์ทองที่ใช้ โดยการนำมาหาร 24 เช่น:
ส่วนเปอร์เซ็นต์ที่เหลือนอกเหนือจากธาตุทองคำ นั่นก็คือโลหะ Alloy ต่างๆที่จะทำให้เครื่องประดับทองคำนั้นสามารถคงตัวอยู่ได้อย่างแข็งแรง เช่น เงิน (Silver) นิกเกิล (Nickel) ทองแดง (Bronze) และโรเดียม (Rhodium)
นั่นเป็นเพราะทอง 96.5% มีเนื้อทองมากเกินไป จึงทำให้เครื่องประดับมีเนื้อนิ่ม และบิดเบี้ยวได้ง่าย จึงไม่สามารถใช้ในงานตัวเรือนฝังเพชรพลอยได้เลย เพราะจะทำให้ยึดเกาะอัญมณีไว้ไม่อยู่ ทำให้เพชรพลอยมีโอกาสหลุดหายได้ง่าย
หากคุณกำลังใส่สร้อยทองที่ซื้อจากร้านทอง ให้ลองสังเกตง่ายๆตรงส่วนตะขอที่ทำจากทอง 96.5% จริงๆ เมื่อคุณใส่ไปนานๆสิ่งที่มักจะพบเจอ คือตะขอบิ่นจากการที่คุณถอดเข้าถอดออกทุกวัน
สรุปว่าทอง 18K หรือทอง 75% คือทองคำคุณภาพสูงและเหมาะสมที่สุด สำหรับงานแหวนทองฝังเพชร หรือเครื่องประดับเพชรอื่นๆ เพราะมีมูลค่าในตัวเองสูง และที่สำคัญมีความแข็งแรง ทนทานมากกว่าทอง 96.5% เหมาะกับการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน
เนื่องจากทองคำ 18K เป็นทองแท้ จึงมีมูลค่าในตัวเองสูงอยู่พอสมควร เมื่อคุณนำไปขายคืนก็จะคิดมูลค่าอยู่ที่ 75% ของราคาทองในวันนั้น (Mark-to-Market) ซึ่งหากมาคำนวนเทียบกับทอง 96.5% จริงๆถือว่าต่างกันเล็กน้อย แตกต่างกับการซื้อมือถือยี่ห้อดัง หรือรถหรูมือหนึ่ง เพราะคุณจะมีโอกาสขาดทุนเยอะกว่าจากการเสื่อมราคา (Depreciation)
เนื่องจากทอง 14K และ 9K มีส่วนผสมของทองคำเพียง 58.3% และ 37.5% ตามลำดับ จึงมีราคาถูกกว่ามาก และนิยมใช้กันในงานแหวนเพชรราคาถูก เพื่อลดต้นทุนของผู้ผลิต
แต่เมื่อสวมใส่ทองเหล่านี้ไปได้ซักระยะหนึ่ง คุณจะพบเจอ 2 ปัญหาหลักๆ คือ อาการทองซีด และ อาการทองกรอบ เพราะโลหะอื่นๆที่ผสมอยู่จำนวนมาก จะทำปฏิกิริยากับสภาพแวดล้อมไปเรื่อยๆ จนทำให้เครื่องประดับเพชรของคุณมีรอยแตกรอยร้าว หรือรอยหัก ซึ่งยากที่จะซ่อมแซมให้กลับมามีสภาพเหมือนเดิม
อ่านเพิ่มเติม: 3 เคล็ดลับเลือกซื้อ แหวนแต่งงานผู้ชาย เซอร์ไพรส์คนพิเศษ!
แพลตตินั่ม เป็นหนึ่งในโลหะที่มีมูลค่าสูงเกือบจะที่สุดในตารางธาตุ และมักจะใช้ส่วนผสมประมาณ 90-98% ในการผลิตจิวเวลรี เมื่อดูภายนอกจะสวยงามเหมือนกับทองคำขาวมาก อีกทั้งยังมีความคงทนสูงกว่ามาก และจะยังคงดูสวยงามเหมือนเดิม หากคุณทราบวิธีการดูแลอย่างถูกต้อง
หากคุณกำลังตัดสินใจจะซื้อแหวนเพชรแพลตตินั่ม นี่คือข้อดี-ข้อเสียที่คุณควรพิจารณา:
เมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือกวัสดุตัวเรือนให้กับแหวนเพชรเม็ดงามของคุณ หลายคนมักจะมีคำถามว่าควรจะเลือกวัสดุอะไรดีระหว่าง ทองคำขาวกับแพลตตินั่ม?
ความแตกต่างหลักของวัสดุทั้งสองหลักๆจะเรื่องแร่ธาตุ ความคงทน และราคา ที่ถึงแม้ว่าเมื่อดูจากภายนอกแล้วทั้งสองจะมีความคล้ายคลึงกันมาก เรียกได้ว่าดูแล้วแทบจะเหมือนกันเกิน 90% โดยแหวนทองคำขาวจะต้องผ่านการชุบโรเดียมเพื่อให้มีลักษณะภายนอกที่ดูเงา ในขณะที่แพลตตินั่มจะเป็นเนื้อวัสดุจริงที่มีความขาวเงาคงทนอยู่แล้ว และจะมีสีที่ที่มืดกว่าเล็กน้อย ให้ความรู้สึกเป็นสีแบบ Deep White Tone ซึ่งดูแล้วมีความเป็นธรรมชาติไม่น้อย
บางคนนิยมเรียกแพลตตินั่มว่า ทองขาว เพื่อไม่ให้ซ้ำกับ ทองคำขาว แต่กลายเป็นการสร้างความสับสนมากกว่าเดิม ทางที่ดีควรเรียกแพลตตินั่มไปตามชื่อเลย เพราะแพลตตินั่มก็คือแร่แพลตตินั่ม (Pt) ส่วนทองคำก็คือแร่ทองคำ (Au) ซึ่งเป็นธาตุคนละชนิด ที่มีลักษณะเฉพาะตัวแตกต่างกันอย่างชัดเจน
สำหรับเปอร์เซ็นต์ทองคำที่ใช้ในเครื่องประดับเพชรในเมืองไทย จะมีมาตรฐาน (Industry Standard) อยู่ที่ 18K ซึ่งจะมีเปอร์เซ็นต์ทองคำ และมูลค่ามากกว่าที่นิยมใช้กันในสหรัฐอเมริกาที่ 14K
สำหรับแพลตตินั่มที่นิยมโดยทั่วไปจะนิยมใช้เป็น Platinum 90% หรือ Platinum 95% ซึ่งถ้าให้แนะนำให้คุณเลือกเป็น 90% จะเหมาะสมกว่า เพราะเมื่อนำมาขึ้นเรือนแหวนจะมีโอกาสเป็นรูพรุนได้น้อยกว่า 95% ซึ่งรูพรุนเหล่านี้จะส่งผลให้แหวนมีโอกาสชำรุดได้สูงกว่า
เมื่อคุณสวมใส่เครื่องประดับแพลตตินั่ม เรียกได้ว่าคุณสามารถสบายใจได้ไปตลอดชีวิต เพราะแพลตตินั่มเป็นวัสดุที่มีความทนทานสูงกว่าทองคำขาว 18K มาก จึงไม่ต้องดูแลมากในระยะยาว อีกทั้งสีของวัสดุจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
สำหรับทองคำขาว 18K คุณอาจพบว่าจะเกิดรอยขีดข่วนง่ายกว่า จึงต้องนำไปขัดชุบทุกๆ 3-5 ปี (ในกรณีที่สวมใส่เป็นประจำแบบสมบุกสมบัน) ส่งผลให้ต้นทุนในการดูแลทองคำขาว 18K สูงกว่าในระยะยาว เพราะต้องหมั่นทำความสะอาดและขัดเงาเรื่อยๆบ่อยกว่าทองคำ เพื่อให้คงพื้นผิวที่เรียบเนียนสวยงามเอาไว้เหมือนเดิม
ความแตกต่างที่คุณสามารถเห็นได้ชัดเจนที่สุด คือ ราคาของแพลตตินั่มที่สูงกว่าทองคำขาวมากกว่าเยอะในระดับ 30-50%
ถ้าให้วิเคราะห์ในเชิงเศรษฐศาสตร์ คุณจะพบว่าเมื่อเทียบราคาของวัสดุทั้งสองต่อกรัม ถือว่าไม่แตกต่างกันมากนัก แต่เมื่ออธิบายด้วยหลักวิทยาศาสตร์ การผลิตแหวนแพลตตินั่มซักวงจำเป็นต้องใช้แร่ธาตุจำนวนเยอะกว่า เนื่องจากเป็นธาตุที่มีความหนาแน่นมากกว่า
ในแง่ของการผลิต แพลตตินั่มมีจุดหลอมเหลวสูงกว่าที่อุณหภูมิ 982°C ในขณะที่ ทองคำขาวจะอยู่ที่อุณหภูมิ 732°C เพราะฉะนั้นจึงต้องใช้ไฟที่ร้อนกว่าในการหลอมแพลตตินั่ม เนื่องจากมีความทนทานสูงมาก
อีกทั้งยังต้องสร้างห้องพิเศษสำหรับการผลิต ซึ่งช่างจะให้ช่างผลิตแพลตตินั่มมาผลิตในห้องเดียวกับช่างทองหรือเงินไม่ได้ จึงทำให้กระบวนการแหวนแพลตตินั่มมีราคาสูงกว่าแหวนทองคำขาว
หากคุณชื่นชอบในความคงทนของแพลตตินั่ม และไม่ต้องการกังวลเรื่องการดูแลในระยะยาว แหวนแพลตตินั่มก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย แต่หากงบประมาณมีจำกัดแหวนทองคำขาวก็อาจเพียงพอสำหรับการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน
เมื่อถึงเวลาต้องเลือกวัสดุทองคำ คุณจะสังเกตได้ว่ามีอยู่ตัว 3 ตัวเลือก:
ทองคำขาว เป็นอัลลอย (Alloy) หรือโลหะผสมชนิดหนึ่ง ที่ผลิตมาจากการรวมตัวของทองคำเพียวๆ บวกกับโลหะที่มีเนื้อสีขาว เช่น นิกเกิล (Nickel) เงิน (Silver) และพาลาเดียม (Palladium)
ทองคำ ที่ใช้สำหรับเครื่องประดับสวมใส่ ผลิตมาจากทองคำเพียวๆ บวกกับทองแดง (Copper) และสังกะสี (Zinc)
อย่างที่คุณได้ทราบดีแล้ว ว่ายิ่งทองคำมี K มากเท่าไร ก็จะยิ่งมีส่วนผสมของทองคำมาก
โรสโกลด์ หรือ พิงค์โกลด์ เป็นคำที่ใช้เรียกทองคำที่มีเนื้อแดงอมชมพู ซึ่งจริงๆแล้วมีความหมายไม่ต่างกัน จึงนิยมเรียกสลับกันไปมา
ส่วนผสมหลักที่จะทำให้โรสโกลด์ดูมีสีชมพู คือ ทองแดง (Copper) ซึ่งหากยิ่งใส่ทองแดงมากเท่าไร ก็จะทำให้ทองคำดูมีสีแดงมากขึ้นเท่านั้น โดยปกติส่วนผสมที่นิยมใช้กันในโรสโกลด์ 18K คือ ทองคำ 75% และทองแดง 25%
สำหรับท่านที่ยังตัดสินใจอยู่ ระหว่างทองคำขาวกับแพลตตินั่ม แนะนำให้ลองพิจารณาดูข้อดีข้อเสียอีกรอบ เพื่อให้มั่นใจว่าคุณได้เลือกในสิ่งที่เหมาะสมกับคุณที่สุด
แหวนแพลตตินั่ม ถึงแม้ว่าจะมีราคาที่สูงกว่า และปรับไซส์แหวนได้ยากกว่า แต่ในแง่ความคงทน และการดูแลรักษา ก็อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการความสบายใจในระยะยาว
ส่วนแหวนทองคำขาว ถึงแม้ว่าจะมีความทนทาน และเป็นรอยได้ง่ายกว่าแพลตตินั่ม แต่หากในอนาคตคุณมีน้ำหนักที่มากขึ้นหรือลดลง ก็สามารถนำแหวนไปปรับไซส์นิ้วได้อย่างไร้กังวล
ส่วนการเลือกสีทองคำ สำหรับแหวนเพชรวงต่อไปของคุณ ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัว ซึ่งเป็นเรื่องของสไตล์ล้วนๆ เป็นสิ่งที่แนะนำกันได้ยากครับ
ในการเลือกซื้อแหวนเพชรสักวง คุณอาจต้องใช้เวลาในการตัดสินใจพอสมควร และหากคุณต้องการรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ สามารถติดต่อเราตอนนี้ เพื่อให้เราช่วยคุณค้นหาเพชรน้ำงาม ในแบบที่ใครๆก็ต้องเหลียวมอง ภายในงบประมาณที่เหมาะสมได้
อ่านเพิ่มเติม: 15 แบบแหวนเพชร เจาะลึกทุกสไตล์ฮิต ที่คุณจำเป็นต้องรู้ตอนนี้
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของท่าน กรุณาอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว