อัพเดทล่าสุด 08/02/2022 โดย Above Diamond
การเลือก “ทรงผมเจ้าสาว” ถือเป็นความท้าทายสำหรับเจ้าสาวหลายๆคนที่ต้องค้นหาทรงผมเจ้าสาวที่ใช่ให้ทันก่อนวันแต่งงาน ซึ่งในบางครั้งอาจยากกว่าการเลือกชุดแต่งงานเองด้วยซ้ำ
หากวันแต่งงานของคุณใกล้เข้ามาถึงทุกที บรู๊คเชื่อว่าสาวๆหลายคนใฝ่ฝันถึงการได้เป็นเจ้าสาวที่ดูงดงามในแบบของตัวเองมากที่สุด โดยภายหลังจากที่คุณค้นพบชุดเจ้าสาวที่ใช่ ในลำดับถัดไปคุณก็จะต้องหาทางออกแบบลุคโดยรวมของคุณให้ดูดีที่สุดโดยนอกจากการค้นหารองเท้าและเครื่องประดับเจ้าสาวที่ใช่แล้ว “ทรงผมเจ้าสาว” ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กันที่ช่วยเติมเต็มลุคเจ้าสาวของคุณให้สะกดทุกสายตา
แต่การเลือกทรงผมเจ้าสาวอาจเป็นเรื่องท้าทาย เพราะจะต้องเลือกทรงผมที่คุณชอบออกมาดูดีในสายตาของแขกที่มางานด้วย และเพราะบนอินเตอร์เน็ตมีทรงผมแต่งงานนับร้อยๆสไตล์ให้คุณเลือก ทำให้คุณอาจไม่แน่ใจว่าทรงผมเจ้าสาวทรงใดเหมาะกับคุณกันแน่
ในบทความนี้ บรู๊คจึงอยากจะมาแนะแนวทางในการเลือกทรงผมเจ้าสาวที่ใช่สำหรับคุณจริงๆ โดยดูจากทั้งรูปหน้า ความยาวของผม สไตล์ของชุด และยังมีเคล็ดลับการเลือกทรงผมเจ้าสาวดีๆพร้อมวิธีการจองช่างผมมืออาชีพมาฝากในบทความนี้อีกด้วย ถ้าพร้อมแล้ว ก็ไปค้นหาทรงผมแต่งงานที่ใช่สำหรับคุณกันเลยดีกว่าค่ะ!
สิ่งที่ต้องคำนึง ก่อนเลือก “ทรงผมเจ้าสาว”
ก่อนอื่น บรู๊คอยากจะพาคุณมาทำความคุ้นเคยกับข้อควรจำก่อนเลือกทรงผมแต่งงานที่ใช่ ดังนี้
เลือกทรงผมเจ้าสาว จากรูปแบบชุดเจ้าสาว
ก่อนที่คุณจะเลือกทรงผมแต่งงานที่ใช่ ในอันดับแรกคุณจะต้องเลือก “ชุดเจ้าสาวที่ใช่” ให้ได้ก่อน เพราะชุดแต่งงานถือเป็นส่วนประกอบสำคัญที่สุดสำหรับการเป็นเจ้าสาว
ส่วนทรงผมจะช่วยเติมเต็มลุคเจ้าสาวของคุณให้สมบูรณ์ และควรล้อกันกับรูปแบบของชุดเจ้าสาวมากกว่า เคล็ดลับเด็ดก็คือ ให้คุณพยายามรักษาสมดุลการแต่งตัวในช่วงคอให้ไม่ดูเยอะหรือน้อยจนเกินไป
ตัวอย่างของทรงผมแต่งงานที่เข้ากันกับรูปแบบชุดแต่งงาน ก็อย่างเช่น:
– ชุดเจ้าสาวทรงเกาะอก: เข้ากันได้ดีกับทรงผมแต่งงานแบบเกล้าขึ้นหรือเกล้าเพียงครึ่งหัว รวมรวมแล้วทิ้งปอยผมด้านหน้าลงมาให้ดูเป็นธรรมชาติ หรือปาดหน้าม้าให้บังหน้าผากเล็กน้อย หากคุณรวบตึงผมทั้งหมดไปไว้ข้างหลัง ใบหน้าและลำตัวด้านหน้าจะดูโล่งจนเกินไป
– ชุดเจ้าสาวกระโปรงสุ่ม: ที่เป็นชุดเจ้าสาวสำหรับงานราตรี มีความหนาพองของกระโปรงเป็นอย่างมากในแบบฉบับเจ้าหญิง ทรงผมเจ้าสาวชุดราตรีก็ควรเป็นทรงผมเกล้าขึ้นให้ดูเป็นทางการและดูหรูหราขั้นสุด
– ชุดเจ้าสาวสายเดี่ยว: จะดูสวยยิ่งขึ้นหากคุณทำผมเกล้าขึ้นไปแบบหลวมๆให้เห็นผมดัดเป็นคลื่นนิดๆดูเป็นธรรมชาติ หรือถ้าหากอยากได้ลุกดูโรแมนติกและทันสมัย ก็สามารถปล่อยผมที่ดัดเป็นคลื่นลอนอ่อนๆแบบดูน่าหลงใหลก็ได้เช่นกันค่ะ
– ชุดเจ้าสาวมีดีเทลตรงช่วงอก: หากชุดของคุณมีดีเทลค่อนข้างมากตรงช่วงอก เช่นการใส่สร้อยคอเพชรหรือเลือกชุดเจ้าสาวแบบคล้องคอ หากเกล้าผมขึ้นก็จะดูสมดุลกว่า และไม่ทำให้ดีเทลช่วงอกและช่วงคอดูเยอะจนเกินไป
– ชุดเจ้าสาวในงานแต่งเล็กๆ หรืองานแต่งริมทะเล: ที่รูปแบบของชุดมักไม่เป็นทางการมาก คุณก็สามารถม้วนผมให้เป็นคลื่นลอนอ่อนๆแล้วเกล้าไปด้านข้าง สวมมงกุฎดอกไม้หรือปิ่นปักผมดอกไม้อีกนิด ก็ดูสวยหวานในบรรยากาสสบายๆได้แล้วค่ะ
– ชุดเจ้าสาวที่มีดีเทลลูกปัดหรือปักเลื่อม: หากปล่อยผมยาวลงมา ก็มีสิทธิ์ที่ผมจะเกี่ยวเข้ากับชุดจนเสียทรง หรือทำให้ชุดเสียหายได้ หากคุณใส่ชุดเจ้าสาวประเภทนี้ ก็ควรเกล้าผมขึ้นจะดีกว่าค่ะ
– ชุดเจ้าสาวแบบโมเดิร์นและมินิมอล: เข้ากันได้ดีกับทรงผมรวบตึง แสกกลาง หวีเรียบดูทันสมัย แต่หากอยากได้ลุคดูอ่อนหวานขึ้นอีกนิด ก็ให้ปล่อยปอยผมด้านข้างที่ดัดอ่อนๆลงมาค่ะ
“ทรงผมเจ้าสาว” ควรแฝงความเป็นทางการไว้ด้วย
เพราะงานแต่งงานถือเป็นวันสำคัญของคุณและคู่ อีกทั้งยังมีแขกเหรื่อและคนสำคัญในชีวิตของคุณมาร่วมงาน การให้เกียรติทั้งกับตัวเอง คู่ และผู้มาร่วมงานด้วยการใส่ความเป็นทางการเข้าไปจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ
คุณอาจไม่จำเป็นต้องรวบผมมวยตึงทั้งหัว แต่อาจเกล้าผมขึ้นไปให้ดูเรียบร้อยเหมาะกับวันพิเศษ จัดแต่งผมด้านหน้าให้ดูเรียบขึ้นแล้วทัดหูไว้ หรือหากอยากปล่อยผมก็อาจจะจัดแต่งทรงผมให้ไม่ชี้ฟู
คุณอาจหนีบผมให้ดูตรง ลื่นสลวย หรือม้วนผมเป็นคลื่นลอนที่ดูเป็นระเบียบ ก็เพิ่มความทางการให้กับทรงผมแต่งงานของคุณได้แล้วค่ะ
ไม่เปลี่ยนทรงผมหรือสีผมใกล้วันงาน
แม้คุณอาจจะตื่นเต้นกับการแปลงโฉมตัวเองด้วยแพคเกจเจ้าสาวใดๆก็ตาม แต่คุณก็ไม่ควรเปลี่ยนทรงผมหรือทำสีผมที่เปลี่ยนไปจากเดิมในช่วงใกล้วันงานจนเกินไป เพราะหากเกิดความผิดพลาดใดๆก็ตาม เช่นตัดผมออกมาแล้วผมยาวไม่เพียงพอจะเกล้าผม หรือทรงผมที่ออกมาดูไม่ดี รวมไปถึงทำสีผมที่ไม่เข้ากับสีผิว ก็อาจทำให้แก้ไขผมก่อนวันงานได้ไม่ทัน
ถ้าหากคุณอยากจะเปลี่ยนทรงผมจริงๆก็สามารถทำได้ แต่บรู๊คแนะนำให้ทำก่อนหน้าวันงานอย่างน้อย 1 เดือนเป็นต้นไป เพื่อให้เวลาให้ผมได้เข้าทรง หรือหากทำผมออกมาผิดพลาด จะได้มีเวลาแก้ไขได้ทันนั่นเองค่ะ
จัดทรงให้ผมเงางาม ดูไม่ยุ่งเหยิง
ในวันงานจริง แม้ว่าทรงผมเจ้าสาวที่คุณเลือกจะดูสวยเพียงใด ผมก็อาจอยู่ทรงไม่นานถ้าหากไม่มีการจัดทรงผมให้ถูกต้อง การจัดทรงผมจึงสำคัญมากที่จะทำให้คุณเฉิดฉายได้ตลอดจนจบพิธีการ
คุณสามารถใช้สเปรย์จัดแต่งทรงผมรูปแบบต่างๆเพื่อทำให้ผมอยู่ทรง โดยในแต่ละฤดูก็จะมีวิธีจัดทรงผมแตกต่างกันไปตามสภาพอากาศ นั่นก็คือ:
– ฤดูร้อน: ด้วยอากาศที่ร้อนจัดก็อาจทำให้ผมดูลีบ เหนอะหนะ คุณสามารถใช้สเปรย์เพิ่มโวลุ่มเพื่อจัดทรงให้ผมดูหนาขึ้นหรือเป็นลอนเด้งดูธรรมชาติได้
– ฤดูฝน: ในฤดูกาลนี้ หากคุณจัดงานแต่งกลางแจ้ง อากาศที่ชื้นขึ้นอาจทำให้ผมดูไม่เป็นทรงหรือทำให้ลอนผมคลาย ให้ใช้สเปรย์ทำให้ผมอยู่ทรงหรือเลือกทรงผมแบบเกล้าขึ้นก็จะช่วยได้ค่ะ
– ฤดูหนาว: ด้วยอากาศที่แห้งขึ้นจึงทำให้ผมดูไม่เงางามและชี้ฟู ทางที่ดี ให้คุณใช้ Leave-on Conditioner ก่อนการจัดแต่งทรงผม จะช่วยทำให้ผมชุ่มชื้นไม่แห้งฟูค่ะ
“ทรงผมเจ้าสาว” ตามรูปหน้า
เพราะใบหน้าของแต่ละคนไม่มีทางเหมือนกัน ทรงผมแต่งงานที่คุณถูกใจอาจจะไม่ใช่ทรงที่เหมาะกับคุณที่สุดก็ได้ ทางที่ดี คุณควรดูก่อนว่ารูปหน้าของคุณเป็นแบบไหนแล้วเลือกทรงผมช่วยขับเน้นให้ใบหน้าของคุณดูงดงาม เรียวสวยยิ่งขึ้น
โดยทรงผมเจ้าสาวที่เหมาะกับรูปหน้าในแบบต่างๆ มีดังนี้ค่ะ:
“ทรงผมเจ้าสาว” หน้ารูปไข่ (Oval)
อันที่จริงแล้วหากใครมีหน้ารูปไข่ก็ถือว่าโชคดีมาก เพราะคุณสามารถทำผมเจ้าสาวทรงใดก็เข้ากันได้หมด ยิ่งถ้าหากคุณอยากได้ทรงผมแต่งงานที่โดดเด่น ดูโฉบเฉี่ยว และทันสมัยยิ่งขึ้น ก็ให้ลองเกล้าผมรวบขึ้นไปทั้งหมด เพื่อให้เห็นรูปหน้าของคุณที่งดงามไปทุกสัดส่วน
หรือถ้าหากคุณไม่อยากเกล้าผม ก็สามารถปล่อยผมลงมาแบบแสกกลางที่รับเข้ากับเรียวโหนกแก้ม แล้วม้วนผมเป็นลอนคลายๆ ก็เข้ากันดีกับรูปหน้าของคุณเช่นกันค่ะ
“ทรงผมเจ้าสาว” หน้าเหลี่ยม (Square)
หากคุณมีใบหน้าเหลี่ยม ช่วงกรามของคุณจะค่อนข้างกว้างและเห็นมุมกรามชัดเจน สำหรับทรงผมแต่งงานที่เหมาะจะเป็นทรงผมที่ทำให้รูปหน้าของคุณดูเรียวมนขึ้น คุณสามารถเกล้าผมแบบมวยต่ำ แล้วทิ้งปอยผมด้านข้างลงมาเล็กน้อยเพื่อดึงความสนใจไปจากช่วงกราม ก็จะทำให้หน้าดูเรียวเล็กลงได้ค่ะ
หากคุณอยากปล่อยผมลงมา ทรงผมแต่งงานแบบหนีบผมตรงยาวและแสกกลางจะทำให้ลุคของคุณดูซอฟต์ลงได้ค่ะ
“ทรงผมเจ้าสาว” หน้ารูปหัวใจ (Heart)
เจ้าสาวที่มีใบหน้ารูปหัวใจจะมีใบหน้าที่ดูสมดุลกัน มีหน้าผากที่กว้างกว่าสัดส่วนคาง หากคุณอยากเกล้ผมให้ดูได้ลุคหวานโรแมนติก ทรงผมแต่งงานที่เหมาะจะเป็นการเกล้าผมในระดับที่ต้องการ แต่ให้แสกผมตรงกลางค่อนมาทางด้านข้างเล็กน้อย
คุณอาจถักเปียเล็กๆไว้ด้านข้างเพื่อเพิ่มความหวานละมุนที่เข้ากันได้ดีกับรอยยิ้มที่น่าประทับใจของคุณค่ะ
หากคุณอยากปล่อยผม ให้ลองปล่อยผมปัดมาข้างใดข้างหนึ่งที่ผมจะระลงมาแถวระดับคาง แล้วจัดทรงผมให้ดูมีโวลุ่มหรือมีลอนเล็กน้อย ก็จะทำให้ใบหน้าของคุณดูสวยเก๋ขึ้นค่ะ
“ทรงผมเจ้าสาว” หน้ายาว (Long)
หากคุณเป็นเจ้าสาวที่มีใบหน้ายาว การเกล้าผมขึ้นไปเป็นมวยผมดูจะเหมาะกับคุณ แต่อย่าเกล้าให้สูงจนเกินไปจนทำให้ใบหน้าของคุณดูยาวยิ่งกว่าเดิม
อีกทั้งคุณสามารถปาดผมด้านหน้าลงมาหรือมีหน้าม้า ก็ช่วยทำให้ใบหน้าของคุณดูสมส่วนขึ้นได้ค่ะ
หากคุณอยากปล่อยผม การแสกผมมาด้านข้างจะช่วยทำให้ใบหน้าของคุณดูสั้นสมส่วนยิ่งขึ้น โดยคุณสามารถทัดผมข้างใดข้างหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มความกว้างให้ใบหน้าและเผยให้เห็นแนวกรามที่งดงามของคุณค่ะ
“ทรงผมเจ้าสาว” หน้ากลม (Round)
หากคุณมีใบหน้าที่กลมและสั้น ทรงผมเจ้าสาวหน้ากลมที่เหมาะกับคุณจะเป็นทรงผมเกล้าขึ้นไปแบบหางม้าแสกข้างที่ช่วยเพิ่มความหรูหราให้กับลุคของคุณ และยังช่วยทำให้แนวกรามของคุณดูสูงขึ้นอีกด้วยค่ะ
และหากคุณต้องการปล่อยผม ก็ให้แสกข้างแบบลึกเพื่อเพิ่มเหลี่ยมมุมที่ส่วนหน้าผากและเพิ่มความสมส่วนให้ใบหน้าของคุณ แล้วม้วนผมเป็นลอนขนาดใหญ่ให้ดูหรูหราน่าหลงใหลมากยิ่งขึ้น
ทรงผมเจ้าสาวผมสั้น
หากคุณเป็นว่าที่เจ้าสาวที่มีผมสั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่สามารถมีทรงผมแต่งงานที่โดดเด่นเหมือนกันกับเจ้าสาวผมยาวได้
โดยไม่ว่าคุณจะมีผมสั้นในระดับใด ทั้งผมบ๊อบ ผมสั้นกุดแบบ Pixie Cut หรือผมสั้นระดับไหล่ ก็สามารถจัดทรงออกมาให้ดูโรแมนติกหรือหรูหราตามต้องการได้ โดยบรู๊คมีไอเดียทรงผมเจ้าสาวผมสั้นที่คุณน่าจะชื่นชอบมาฝากกัน ดังนี้ค่ะ:
ใส่เครื่องประดับผมหรือมงกุฎดอกไม้
แม้ว่าคนผมสั้นจะไม่สามารถเกล้าผมขึ้นไปให้ดูมีดีเทลแบบคนผมยาวได้ แต่คุณสามารถใส่มงกุฎดอกไม้หรือเครื่องประดับผมต่างๆที่ดูโดดเด่นลงไปบนทรงผมเจ้าสาวผมสั้นของคุณโดยไม่ทำให้ลุคโดยรวมดูเยอะจนเกินไปได้
คุณอาจจะเลือกมงกุฎดอกไม้สีที่ชอบ เลือกใส่เครื่องประดับเพชรบนผมที่ดูโดดเด่น หรือแม้แต่ทัดดอกไม้ดอกใหญ่ไว้ด้านข้าง ก็ทำให้ทรงผมเจ้าสาวผมสั้นของคุณดูโดดเด่นแบบไม่ต้องพยายามมากเลยล่ะค่ะ
Pixie Cut
หากคุณเป็นสาวมั่นและทันสมัย อีกทั้งยังตัดผมสั้นกุดแบบ Pixie Cut อยู่แล้ว คุณก็แทบไม่ต้องทำอะไรกับผมแล้วค่ะ เพราะทรงผม Pixie Cut มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ภายในตัว
เพียงแค่คุณใช้ครีมจัดแต่งทรงผมเจ้าสาวผมสั้นทรงนี้ให้ดูมี texture ก็เพียงพอแล้ว หรือหากอยากเพิ่มความโดดเด่น จะใส่เครื่องประดับผมเข้าไปเพิ่มก็จะดูหรูหราและเป็นทางการขึ้นได้ค่ะ
ผมสั้นม้วนลอนอ่อนๆ
หากคุณอยากได้ลุคหวานโรแมนติกสำหรับทรงผมเจ้าสาวผมสั้น เพียงแค่คุณม้วนผมเป็นลอนอ่อนๆ หรือประดับผมด้านข้างด้วยเครื่องประดับผมสวยๆ ก็ดูโดดเด่นอย่างที่ต้องการได้แล้วค่ะ
ผมบ๊อบตรง
หากคุณอยากได้ทรงผมเจ้าสาวผมสั้นแบบโฉบเฉี่ยวทันสมัย นอกจากทรง Pixie Cut แล้ว คุณก็อาจลองหนีบผมให้เรียบตรงที่สุด ก็จะได้ลุกผมบ๊อบตรงที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคก็ยังดูทันสมัยได้ตลอด
ผมสั้นถักเปียครึ่งหัว
คุณสามารถเพิ่มมิติให้กับทรงผมเจ้าสาวผมสั้นของคุณได้ ด้วยการถักเปียในแบบต่างๆ ทั้งการถักเปียที่ด้านบนผมให้ดูเหมือนที่คาดผม หรือถักเปียแบบหางปลา (Fish Tail) ในจุดต่างๆของผม แล้วปล่อยผมด้านล่างลงมาพร้อมม้วนลอนอ่อนๆ ก็ทำให้ทรงผมเจ้าสาวผมสั้นของคุณดูเหมาะกับวันพิเศษแล้วค่ะ
ต่อผม
หรือถ้าคุณยังกังวลใจ หาทรงผมเจ้าสาวผมสั้นที่เหมาะกับคุณไม่ได้เสียที การต่อผมก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ช่วยเพิ่มทางเลือกให้สาวผมสั้นเช่นคุณสามารถทำทรงผมเจ้าสาวในแบบต่างๆได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเกล้าขึ้น การมัดผมแบบหางม้า รวมไปถึงการปล่อยผมยาวสยายตามต้องการค่ะ
เคล็ดลับการจองช่างผม
และหากคุณกำลังมองหาช่างผมสำหรับทำผมแต่งงานแล้วเจอช่างผมที่ตรงใจ สามารถทำทรงผมเจ้าสาวออกมาได้ตรงตามที่คุณต้องการ ก็คงทำให้คุณอุ่นใจในวันสำคัญได้ไม่น้อย
แต่ช่างผมมากประสบการณ์ที่สามารถทำผมให้ได้ตรงใจคุณจริงๆนั้นค่อนข้างหายากและมีมีคิวค่อนข้างยาว บรู๊คจึงมีเคล็ดลับการจองช่างผมสำหรับทำทรงผมแต่งงานมาฝากคุณเพิ่มเติม ดังนี้ค่ะ:
วางแผนตารางการจองให้ดี
แม้ว่าการทำผมแต่งงานจะทำได้ก็ต่อเมื่อถึงวันงานจริงเท่านั้น แต่คุณจำเป็นจะต้องจองคิวช่างทำผมไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ
บรู๊คแนะนำว่าให้จองคิวไว้ตั้งแต่ 3 เดือนเป็นต้นไปจึงจะทำให้คุณสามารถเลือกช่างผมที่เป็นมืออาชีพและมีคิวพร้อมทำผมให้คุณในวันงานจริงได้ โดยยิ่งช่างผมเก่งและมีชื่อเสียงมากเพียงใด ระยะเวลาการจองคิวก็จะยาวมากขึ้นเท่านั้นค่ะ
นอกจากนี้ ในวันงานคุณอาจต้องดูด้วยว่าคุณต้องการใช้ช่างผมเป็นระยะเวลานานเท่าใด หากเป็นเพียงงานเช้า คุณอาจจองเวลาของช่างผมทั้งช่วงเช้าเลยก็ได้ เพื่อในกรณีที่อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันจนผมเสียทรง ช่างผมจะได้เข้าแก้ไขได้ทัน
หรือหากงานแต่งงานของคุณมีทั้งงานเช้าและงานเย็นซึ่งจำเป็นต้องเปลี่ยนทรงผม การจองคิวช่างทำผมไปเลยทั้งวันก็ดูจะเหมาะกว่าค่ะ
เลือกช่างผมจากผลงานจริงที่เคยทำ
ก่อนที่คุณจะจองช่างผมสักประมาณ 1 เดือนก่อนหน้า ก็ให้คุณลองมองหาทรงผมเจ้าสาวที่ต้องการและเริ่มมองหาช่างผมที่ใช่ โดยดูจากผลงานจริงที่เคยทำว่าดูมีความเป็นมืออาชีพมากน้อยแค่ไหน และสไตล์ของทรงผมตรงกับที่คุณวาดฝันไว้หรือไม่
โดยคุณสามารถเลือกตัวเลือกช่างผมที่ใช่มาซัก 2-3 เจ้า แล้วลองคุยกับช่างผมเหล่านั้นดูว่าคุณถูกใจสไตล์การทำงานของเขาหรือไม่
การนัดหมายเพื่อซ้อมทำผม (Hair Trial)
เมื่อคุณมีช่างทำผมที่ถูกใจ คุณอาจลองนัดหมายให้มาซ้อมทำผมให้คุณดูก่อนว่าคุณชอบหรือไม่ หรือมีอะไรต้องแก้ไข
โดยการนัดหมายเพื่อซ้อมทำผมเป็นเคล็ดลับสำคัญที่จะทำให้คุณเบาใจลงได้ในวันแต่งงาน ว่าคุณจะมีทรงผมเจ้าสาวที่ถูกใจสมบูรณ์แบบและทำโดยช่างผมมืออาชีพที่คุณต้องการ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ช่างผมก็จะคิดราคาการซ้อมทำผมด้วย แต่อาจไม่มากเท่าการทำผมในวันจริง
ในวันที่มาซ้อมทำผม ก็เป็นโอกาสดีที่คุณจะเอารูปทรงผมแต่งงานที่คุณชอบหลายๆแบบมาให้ช่างผมดู และเล่าให้ฟังถึงธีมงานแต่งคร่าวๆว่าเป็นแบบไหน เป็นทางการมากไหม จัดข้างในหรือกลางแจ้ง และลักษณะชุดแต่งงานของคุณโดยเฉพาะช่วงคอบ่าไหล่เป็นแบบใด ช่างผมจะได้ช่วยให้คำปรึกษาว่าทรงผมแต่งงานทรงไหนเหมาะสมและเป็นสิ่งที่คุณมองหามากที่สุด
นอกจากนี้ หลังซ้อมทำผมเสร็จ ก็ให้คุณลองสังเกตดูว่าผมสามารถอยู่ทรงได้ทั้งวันหรือไม่ และในการนัดหมายเพื่อซ้อมทำผม คุณสามารถนัดหมายหลายเดือนล่วงหน้าไปจนถึงหลายอาทิตย์ก่อนหน้างานแต่งก็ได้เช่นกันค่ะ
อ่านต่อ: Checklist งานแต่งงาน จัดงานแต่ง ที่ทุกคู่รักต้องมีติดมือ
ทำผมแต่งงานเองได้ไหม?
ขอตอบเลยว่าได้แน่นอนค่ะ เพราะนี่คือวันสำคัญของคุณ คุณสามารถเลือกสิ่งที่คุณต้องการถ้าคุณคิดว่าการจ้างช่างทำผมนั้นแพงเกินไป การเรียนรู้ที่จะลองทำทรงผมเจ้าสาวเอง ก็อาจไม่ได้ยากเกินความพยายามของคุณแน่นอนค่ะ
เช่น ถ้าหากคุณอยากจะจัดงานแต่งงานเล็กๆที่มีแขกมาร่วมงานไม่มาก การทำผมด้วยตัวเองก็อาจจะช่วยประหยัดงบประมาณงานแต่งให้คุณได้อีกมาก
อ่านต่อ: คัมภีร์จัด “งานแต่งเล็กๆ” ให้เพอร์เฟกต์ในแบบคุณ
หากคุณต้องการทำทรงผมแต่งงานด้วยตัวเอง เคล็ดลับสำคัญก็คือ ในระหว่างทำผมคุณควรให้เพื่อนหรือคนสนิทอยู่ช่วยเหลือทำผมให้คุณด้วย เพราะตัวคุณเองจะไม่สามารถมองเห็นทรงผมเจ้าสาวจากด้านหลังได้
นอกจากนี้ คุณและเพื่อนก็ควรจะนัดมาซ้อมทำผมกันดูก่อนด้วยว่าเวิร์คไหม เช่นเดียวกันกับเวลานัดช่างทำผมมาซ้อมทำผมดูนั่นเองค่ะ
ดังนั้นแล้ว แม้ว่าทรงผมเจ้าสาวจะมีให้เลือกอยู่มากมายนับร้อยแบบ แต่คุณก็สามารถเลือกทรงผมที่ถูกใจได้โดยยึดเอารูปแบบของชุดแต่งงานและธีมงานแต่งเป็นหลัก รวมไปถึงลองดูว่าทรงผมนั้นๆเข้ากันกับรูปหน้าของคุณหรือไม่
และไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าสาวผมยาวเท่าใด ก็จะมีทรงผมที่เหมาะกับตัวคุณในวันสำคัญรอให้คุณค้นพบเสมอ
หวังว่าเคล็ดลับเหล่านี้จะทำให้ว่าที่เจ้าสาวเช่นคุณสบายใจมากขึ้น ว่าคุณจะมีทรงผมเจ้าสาวที่ช่วยเติมเต็มลุคให้โดดเด่นและสวยที่สุด และหากคุณต้องการสั่งทำแหวนเพชรแต่งงานที่ใช่ ก็สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญของอโบฟไดมอนด์เพื่อนัดหมายให้คำปรึกษาได้ที่นี่เลยนะคะ