อัพเดทล่าสุด 06/01/2022 โดย Above Diamond
คุณอาจจะเคยได้ยินประโยคที่ว่า “Diamonds are a girl’s best friend.” มาบ้างแล้ว เพราะฉะนั้นการถ่ายรูปคู่กับเพื่อนสนิทคนนี้ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก ยิ่งถ้าเป็นแหวนเพชรแต่งงานแล้วด้วยล่ะก็ ยิ่งน่าเก็บความทรงจำนี้ไว้ให้ดี และเอมมี่เชื่อว่า
“การเขียนบรรยายคำพูดเป็นร้อยพันคำ ก็ไม่อาจเทียบได้กับรูปถ่ายเพียงใบเดียว”
วันนี้เอมมี่จึงมีเทคนิคเล็กๆน้อยๆ ในการถ่ายรูปคู่กับแหวนเพชร แหวนหมั้น หรือแหวนแต่งงาน มาฝากค่ะ รับรองว่ารูปออกมาสวยสะดุดตาจนต้องหยุดไทม์ไลน์มาดูกันแน่นอน จะมีเทคนิคอะไรบ้างนั้น เรามาลองทำไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่าค่ะ
1. แสงคือทุกสิ่ง
“แสงที่เหมาะแก่การถ่ายรูปกับแหวนเพชรมากที่สุด คือ แสงอ่อนๆ นอกบ้าน โดยเฉพาะวันที่มีเมฆบ้างบางส่วน กับช่วงเวลา 5 โมงเย็นก่อนพระอาทิตย์ตก”
ไม่มีแสงในสตูดิโอไหนจะสู้แสงแดดธรรมชาติได้เลย เพราะนอกจากจะทำให้ภาพแหวนเพชรของคุณเปล่งประกายได้ขั้นสุดแล้ว แสงที่ดีจะช่วยขับผิวของคุณให้ดูฉ่ำ สุขภาพดี ได้อย่างสมบูรณ์แบบเลยล่ะค่ะ
คุณสามารถเริ่มถ่ายรูปกับแหวนเพชรได้ตั้งแต่เช้ายันเย็น เพราะไม่ว่าจะเป็นแสงเข้มไปจนถึงแสงอ่อนๆ ก็จะให้ความรู้สึกของภาพได้ดี แต่อาจจะแตกต่างกันไปแล้วแต่ช่วงเวลา เช่น ถ้าถ่ายรูปตอนเช้าๆ จะได้ความรู้สึกสดชื่น สดใส เริ่มต้นรับวันใหม่
ต่างจากตอนเย็น ยิ่งวันไหนที่ท้องฟ้าเป็นสีวานิลลา หรือเป็นสีทองอร่าม ที่เราเรียกกันว่า Golden Hour ก็จะยิ่งทำให้ภาพที่ออกมา เต็มไปด้วยความโรแมนติกสุดๆไปเลยค่ะ
Tip: พยายามหลีกเลี่ยงแฟลช หรือแสงแดดเข้มจัดในตอนบ่าย (โดยเฉพาะวันที่ท้องฟ้าเปิด ช่วงบ่าย 3 – 4 โมง) ไม่ควรให้กระทบลงบนเพชรโดยตรง เพราะจะทำให้เพชรดูมืด การหลบไปถ่ายในที่ร่มที่มีแสงสว่างเพียงพอจะทำให้เพชรเปล่งประกายได้ดีกว่า
2. ค้นหามุมที่ใช่ของแหวนแต่ละวงให้เจอ
ขนาดคนเราแต่ละคนต่างก็มีมุมเด็ด หรือมุมที่ถ่ายรูปออกมากี่ทีก็เพอร์เฟค ที่ต่างกันออกไปจริงมั้ยคะ? แหวนเพชรเองก็เหมือนกันค่ะ เพราะแต่ละวงล้วนมีความงามของเพชร และรูปแบบตัวเรือนที่มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกัน จึงทำให้แหวนเพชรเป็นแหวนที่มีเสน่ห์น่าดึงดูดสายตาอยู่เสมอนั่นเอง
แหวนที่มีมุมด้านบนสวย: แนะนำให้ถ่ายมุมด้านบนตรงๆ ด้วยการวางกล้องให้ขนานกับหน้าเพชร จะให้ความรู้สึกที่สมบูรณ์แบบ และเป็นมุมที่เน้นเพชรเม็ดกลางได้ดีที่สุด ยกตัวอย่างเช่น แหวนเพชรเม็ดใหญ่ แหวนเพชรล้อม (Halo Ring) หรือแหวนเพชรแฟนซี ก็ดีค่ะ
แหวนที่มีก้านแหวนด้านข้างโดดเด่น: แนะนำให้ถ่ายมุมกดลงมาจากด้านบน หรือจะเอียง 45 องศา เพื่อให้เห็นรูปทรงของก้านแหวนได้ชัดๆ ก็จะเป็นการดึงเอกลักษณ์ของแหวนเพชรวงนี้ออกมาได้ไม่ยาก เช่น แหวนที่มีเพชรประดับข้าง (Pave Ring) เป็นต้น
แหวนที่มีความพิเศษอยู่ที่ตัวชูเพชร: แนะนำให้ถ่ายหน้าแหวนตรงๆ หรือจะเป็นมุมเสยขึ้น แล้วเอียงแหวนเล็กน้อย เน้นความคมชัดของลวดลายของแหวนให้ได้มากที่สุด เพื่อให้เห็นในรายละเอียดที่คุณตั้งใจใส่ลงไปบนแหวนวงพิเศษวงนี้นั่นเองค่ะ
แหวนเพชรแถว: ด้วยความที่ตัวแหวนมีลักษณะที่ต้องแนบกับนิ้ว ไม่มีส่วนที่ชู หรือส่วนที่เป็นลูกเล่นอื่นๆ เหมือนแหวนเพชรแต่งงาน ดังนั้น มุมที่ดีที่สุดในการถ่ายรูปแหวนเพชรแถว คือ มุมบน ไม่ว่าจะเป็นมุมกดลงมาตรงๆ หรือมุมเอียงเล็กๆ เพื่อให้เกิดประกายวิบวับขึ้นมา ก็จะทำให้ได้ภาพแหวนเพชรแถวที่เพอร์เฟ็คได้ไม่ยากค่ะ
3. อย่าลืมว่า “มือและเล็บ” ก็สำคัญ
การถ่ายรูปแหวนเพชรวงสำคัญทั้งที ไม่ว่าจะเป็นแหวนเพชรแต่งงาน หรือจะเป็นแหวนเพชรแบบใส่ติดนิ้วก็ตาม นอกจากจะต้องทำความสะอาดเพชรและแหวนก่อนแล้ว ถ้าหากเล็บดูไม่เรียบร้อยแล้ว รูปที่ออกมาก็จะสวยได้ไม่สุดนั่นเองค่ะ
หากคุณเป็นคนที่เข้าร้านทำเล็บเป็นประจำอยู่แล้วก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าคุณคือคนส่วนใหญ่ที่ไม่ค่อยมีเวลาทำเล็บเพราะมีภารกิจรัดตัวตลอดเวลา วิธีที่แนะนำง่ายๆ คือ การบำรุงเล็บสักหน่อยด้วยแฮนด์ครีม ให้มือชุ่มฉ่ำก่อนสวมแหวน หรือดูแลให้เล็บดูสะอาดเสมอ เท่านี้ก็เพียงพอแล้วค่ะ
Tip: หากคุณมีความจำเป็นต้องถ่ายรูป ณ ตอนที่เล็บยังไม่พร้อม การโพสต์ท่าเป็นการกำมือหลวมๆ หรือกุมมือคนข้างๆ หรือให้อะไรมาบังแทน ก็จะทำให้ได้รูปที่เก๋ไปอีกแบบ โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องเล็บอีกต่อไป
4. เคลียร์พื้นหลังให้ดี
เมื่อแหวนและมือพร้อมแล้ว พื้นหลังก็ต้องให้เลือกให้ดี หลีกเลี่ยงพื้นหลังที่รกเกินไป อาจหามุมที่ด้านหลังเป็นฉากสีเรียบๆ โดยเฉพาะพื้นหลังสีเข้ม จะช่วยเพิ่มความเด่นให้แหวนเพชรได้อย่างลงตัว หรือหากคุณเป็นคนลุยๆ ชื่นชอบการท่องเที่ยวอยู่แล้ว การมีฉากหลังเป็นวิวธรรมชาติสวยๆ ก็จะทำให้ภาพที่ได้ดูสะดุดตา เพราะมีองค์ประกอบที่ครบเครื่องมากยิ่งขึ้น
5. หน้าชัด-หลังเบลอ คืองานละเอียด
ไม่ว่าคุณจะถ่ายด้วยกล้องเลนส์ใหญ่ๆ หรือกล้องมือถือโหมดถ่ายภาพบุคคล ภาพแหวนเพชรที่ได้มักจะโดดเด่นขึ้นมา เนื่องจากพื้นหลังได้ละลายสายตาไปบ้างพอสมควร รวมถึงความละเอียดของภาพที่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำให้คุณได้ภาพที่ดูเป็นมืออาชีพมากๆ
ข้อสำคัญ
หลีกเลี่ยงการซูม เนื่องจากพิกเซลของภาพจะน้อยลง และทำให้ภาพของคุณไม่คมชัด หากคุณต้องการมุม closed-up จริงๆ ให้ขยับกล้องเข้าใกล้แหวนให้ได้มากที่สุดเท่าที่ระยะโฟกัสกล้องจะทำได้ จากนั้นกดโฟกัสอีกครั้งเพื่อความชัวร์ แล้วค่อยลั่นชัตเตอร์
6. ลองโพสต์ท่าในแบบที่เป็นตัวคุณ แต่แอดวานซ์ขึ้น
การแบมือทั้ง 5 นิ้วตรงๆ ไม่ใช่เรื่องเชย แต่จะดีกว่ามั้ย ถ้าจะลองปรับมาเป็นท่าวางมือสบายๆ อาจจะวางบนแขนคนข้างๆ หรือจะใช้สกิลเชียร์ลีดเดอร์กรีดกรายนิ้วให้เรียงสวยแบบธรรมชาติ การเหยียดนิ้วให้ตรงสักเล็กน้อย รับรองว่ารูปที่ได้ออกมาสะดุดตาใครหลายคนแน่นอนค่ะ
หรือหากคุณยังนึกภาพไม่ออก ลองโพสต์ท่าตามแบบฉบับที่เป็นที่นิยม และเป็นคลาสสิก ได้แก่ท่าโพสต์เหล่านี้ เช่น
- โชว์แหวนหลังมือทั้ง 5 นิ้ว (High Five)
- งอนิ้วแบบหลวมๆ
- หยิบจับสิ่งของ
- กำลังสวมแหวน
- กำลังหยิบจับ/ทำบางอย่าง (ตั้งใจให้เหมือนไม่ได้ตั้งใจ)
อ่านเพิ่มเติม: 4 เคล็ดลับเลือก “แหวนเพชรผู้หญิง” ให้คุณสวย และรวยมาก!
7. อย่าเขินที่จะมีรูปคู่กับคนรู้ใจ
สำหรับใครที่ค่อนข้างขี้อาย หรืออาจจะเป็นคนที่ไม่ค่อยลงรูปคู่บ่อยนัก และกำลังหาไอเดียในการโพสต์รูป ขอบอกเลยว่ามีวิธีโพสต์ได้หลายแบบเลยค่ะ การแท็กเค้าเข้าไปในรูป หรือเขียนคำบรรยายภาพถึงเค้า รายละเอียดเล็กๆน้อยๆ เหล่านี้ ก็เป็นการแสดงออกถึงความใส่ใจ และเป็นการขอบคุณที่มีเค้าอยู่เป็นนัยได้เหมือนกันค่ะ
แต่คำว่า “คนรู้ใจ” ในที่นี้ก็ไม่จำเป็นจะต้องหมายถึง คุณแฟน หรือคุณว่าที่สามี/ว่าที่ภรรยา ซะทีเดียว อาจหมายถึงคนที่คุณแคร์มากๆ คนที่มีส่วนสำคัญในช่วงชีวิตของคุณ ณ ห้วงเวลานั้น หรืออาจจะเป็น ‘น้องๆ สัตว์เลี้ยง’ ของคุณที่บ้าน ที่เค้าคอยให้กำลังใจคุณอยู่เสมอ การมีรูปถ่ายร่วมกับแหวนเพชรซึ่งจะมาเป็นสมาชิกใหม่ในครอบครัวคุณ ก็ดูเป็นอะไรที่น่ารักและมีคุณค่าทางใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้เลยล่ะค่ะ
อ่านเพิ่มเติม: 5 ไอเดียเจ๋ง ขอแต่งงาน เซอร์ไพรส์แฟนสาวให้ประทับใจไม่รู้ลืม
8. ปรับแต่งภาพสักหน่อยไม่เสียหาย
เอมมี่เชื่อว่าไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการลงรูปที่เป็นแสงธรรมชาติ #nofilter อีกแล้ว แต่หากสถานการณ์หรือปัจจัยหลายอย่างไม่เอื้ออำนวย ไม่ว่าจะเป็นวันที่แสงไม่เพียงพอ หรือจะเป็นโทนสีภาพที่คุณตั้งใจคุมให้เป็นโทนเดียวกันกับรูปก่อนหน้า แอพพลิเคชั่นแต่งรูปทั้งหลายก็สามารถทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยที่ดีที่สุด ณ เวลานั้นให้คุณได้ ตัวอย่างเช่น
- เพิ่มแสง เพิ่ม Contrast ให้แหวนและเพชรดูแวววาวมากขึ้น
- ลดค่า Brightness ลง หากรูปนั้นสว่างเกินไป
- ช่วยดูดสีเฉดอื่นๆ ที่อาจจะแย่งซีนแหวนเพชรได้
- เบลอพื้นหลังรกๆ เพื่อลดทอนองค์ประกอบที่ไม่สำคัญลง
ตัวอย่าง Mood & Tone ของภาพที่ให้ความรู้สึกแตกต่างกัน
ภาพโทนอุ่น:
เหมาะกับภาพถ่ายที่มีคนอยู่ในเฟรม เพราะแสงแดดจะทำให้ทุกคนในภาพมีผิวสวยฉ่ำ หรือภาพบรรยากาศงานที่อบอวลไปด้วยความสุข ไม่ว่าจะเป็นงานกลางแจ้ง หรือบรรยากาศริมทะเลสุดโรแมนติก
ภาพโทนเย็น:
เหมาะกับบรรยากาศยามปราศจากผู้คน หรือภาพที่มีสีเขียวธรรมชาติของพืชพันธุ์ เพราะเพชรเหมาะกับภาพโทนเย็นมากที่สุด การคุมโทนภาพให้มีสีจืดลงเล็กน้อย แม้จะให้ความรู้สึกเยือกเย็นไปบ้าง แต่ก็หมายถึงความมั่นคง ไม่เปลี่ยนแปลงไปพร้อมๆกัน
ภาพที่มีสีสันฉูดฉาด:
เหมาะกับภาพดอกไม้ละลานตาในหน้าร้อน หรือจะเป็นภาพปาร์ตี้ที่เต็มไปด้วยกลิตเตอร์วิบวับ ที่สื่อถึงความรู้สึกสนุกสนาน มีชีวิตชีวาสุดๆ และด้วยภาพรวมที่มีสีสันฉูดฉาด ก็จะทำให้แหวนเพชรที่ขาวสุกสว่าง โดดเด่นขึ้นมาได้โดยไม่ต้องพยายามแต่งภาพแต่อย่างใด
ภาพขาว-ดำ:
เหมาะกับภาพที่เป็นตัวแทนความทรงจำได้ดีที่สุด ไม่ว่าบรรยากาศจะเป็นอย่างไร หากคุณบันทึกภาพนั้นไว้ในความขาว-ดำแล้วล่ะก็ ไม่ว่าจะล่วงเลยผ่านไปกี่ปี ความทรงจำ ณ ห้วงเวลานั้นก็จะหวนคืนมาหาคุณได้เสมอ เพราะต้องใช้เวลาในการนึกย้อนกลับไปมากกว่าการดูภาพสีเพียงครั้งเดียวนั่นเอง
9. เข้าใจว่าสวยทุกรูป แต่จงเลือกรูปที่สวยที่สุด รูปเดียวจะดีกว่า
หลังจากเจอแสงที่ถูกใจและรัวชัตเตอร์กันไปแล้ว โดยส่วนมากมักจะได้รูปกันออกมาหลายมุมแน่นอน ซึ่งบางรูปบางมุมก็ดูจะคล้ายกันมาก จึงอยากแนะนำให้คุณเลือก “รูปที่คิดว่าดีที่สุด” มาเพียงหนึ่งรูปจะดีกว่าค่ะ เพราะจะทำให้โพสต์นั้นๆ โดดเด่น น่าค้นหา และทรงพลังขึ้น มากกว่าลงภาพซ้อนกันหลายๆ ภาพอย่างแน่นอน
คำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับ: การเขียนคำบรรยายใต้ภาพ
“เขียนถึงคนพิเศษของคุณที่มีความทรงจำนี้ร่วมกัน”
ไม่ว่าจะเป็นคู่หมั้นของคุณเอง (หรือว่าที่ ก็ตาม) การเขียนคำบรรยายความรู้สึกอันเป็นพิเศษถึงเค้าคนนี้ ทำให้ยามที่คุณกลับมาดูรูปนี้อีกครั้ง ความทรงจำ ณ คืนวันเก่าๆ ก็จะย้อนมาหาคุณได้ไม่ยาก
“กล่าวขอบคุณถึงผู้ที่มีส่วนร่วมในภาพถ่ายเหล่านี้”
เชื่อว่าหากคุณถ่ายภาพและโพสต์ลงโซเชียลโดยไม่ลืมที่จะแท็กผู้คนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นตากล้อง สถานที่ หรือร้านจิวเวลรี่ที่ให้คำปรึกษาคุณได้แบบส่วนตัว อย่าง Above Diamond เอง พวกเรารวมถึงบุคคลอื่นๆ ที่ถูกกล่าวถึง ล้วนแล้วแต่จะต้องดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จและความสุขของคุณครั้งนี้แน่นอน
“#คีย์เวิร์ดสำคัญ แทนการเขียนบรรยายเรื่องราว”
เพราะถ้าหากคุณไม่ใช่สายเขียนคำบรรยายภาพแบบยาวๆ ก็สามารถติดเฉพาะแฮชแท็กชื่อ คำสำคัญที่จะบอกเล่าภาพนั้น นอกจากจะสั้น กระชับใจความสำคัญได้ง่ายๆแล้ว ยังทำให้โพสต์นี้น่าค้นหามากขึ้นอีกด้วย
“หากเป็นแหวนหมั้น แหวนเพชรแต่งงาน ไม่ควรโพสต์ก่อนที่จะบอกญาติสนิทมิตรสหายของคุณซะก่อน”
ไม่ว่าใครก็ตามที่คุณพูดคุยด้วยจนเป็นประจำ หากรับรู้พร้อมคนอื่นๆ ผ่านทางโซเชียลของคุณ เค้าอาจจะแอบน้อยใจได้นะคะ ดังนั้น พวกเค้าเหล่านี้ควรเป็นบุคคลแรกๆ ที่จะได้รับรู้เรื่องราวที่น่ายินดีนี้จากคุณเป็นการส่วนตัวก่อนที่คุณจะโพสต์ลงไปนั่นเอง
“หากเป็นไปได้ ควรหลีกเลี่ยงการเขียนระบุสเปคเพชรลงไป” (เพราะแอบกระซิบหลังไมค์จะดูดีกว่า)
เอมมี่เข้าใจดีว่าเมื่อเราได้ครอบครองแหวนเพชรเม็ดสวยสักวงแล้ว ก็ยากที่จะเก็บความรู้สึกตื่นเต้นดีใจนี้ไว้คนเดียว แต่แทนที่จะเขียนบอกสเปคเพชรว่าขนาดเท่าไหร่ เกรดแบบไหน ให้ความงามของเพชรเป็นคนพูดแทนเราจะดีที่สุดเลยค่ะ
สรุป: จงดึงความสวยของเพชรออกมาให้ได้มากที่สุด
เพราะนอกจากเรื่องแสง มุม การคุมโทน หรือเทคนิคที่กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว ส่วนสำคัญที่สุดล้วนขึ้นอยู่กับความงามที่แท้จริงของเพชรแต่ละเม็ดด้วย หากขาดปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งในบรรดา 4C ไป ภาพเพชรที่ได้ก็จะเจิดจรัสได้ไม่สุด เมื่อเทียบกับเพชรที่สวยพร้อมทั้งเหลี่ยมคมเล่นไฟได้แวววาว ขนาดกะรัตที่บ่งบอกถึงความใหญ่ น้ำเพชรที่ขาวใสไม่มัวหมอง และความใสสะอาดที่ดีไม่มีตำหนิเด่นชัดขัดสายตา เพียงเท่านี้ คุณก็จะสามารถเลือกใช้เทคนิคที่กล่าวไว้ข้างต้น เข้ามาช่วยดึงความงามของเพชรให้ออกมาประจักษ์แก่สายตาผู้คนได้ไม่ยาก และภาพถ่ายแหวนเพชรของคุณก็จะเป็นที่สะดุดตาไม่แพ้ใครแน่นอนค่ะ
หากคุณยังมีคำถามที่ยังสงสัยในมุมมองอื่นๆ เกี่ยวกับเทคนิคการถ่ายภาพแหวนเพชรหรือการสั่งทำแหวน Above Diamond ยินดีให้คำปรึกษาคุณอย่างเต็มที่ค่ะ
แล้วมาร่วมแชร์ภาพแหวนเพชรสวยๆ ด้วยการแท็กหรือติด #abovediamond เข้ามาได้ทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น Instagram หรือทาง Offiacial Page ของเรา แล้วพบกันใหม่ในครั้งหน้าค่ะ :))